Monday, May 30, 2011

Rugged Notebooks


Rugged Notebooks คือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คตระกูลอึด มีจุดเด่นเรื่องหลักออกแบบด้านความทนทาน แข็งแรง กันน้ำ รอบรับการใช้งานหนักเพื่อลดแรงกระแทรกเมื่อตกหล่นและการสั่นสะเทือนเป็นอย่างดี ทำงานได้ทุกสภาพอากาศ บางรุ่นใช้งานได้ในอุณหภูมิตั้งแต่ -29 ถึง 60 องศาเซลเซียส บางรุ่นน้ำหนักเบา นิยมกันมากในต่างประเทศ เช่น นาวิกโยธินสหรัฐฯ , รถสายตรวจต่างๆ วิศวกรก่อสร้าง, แพทย์, นักธุรกิจ และอีกหลายสาขาอาชีพที่ต้องการโน๊ตบุ๊คสมบุกสมบัน ไม่ต้องคอยระวังเรื่องความเสียหายของตัวเครื่องและข้อมูล จอสามารถมองเห็นได้แม้ภายนอกที่มีแสงจ้า

Rugged Notebooks แบ่งได้เป็น 3 Model คือ

1. Fully - rugged ถูกออกแบบ,ทนทานต่อการใช้งานทุกรูปแบบโดยเฉพาะการใช้งานกลางแจ้ง ไม่เน้นดีไซน์ มีรูปร่างที่บึกบึนเหมาะสำหรับหิ้วไปใช้งานในทุรกันดาร มีหน้าจอให้เลือกหลายขนาดให้เหมาะแก่การใช้งาน มีการเชื่อhttp://www.blogger.com/img/blank.gifมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Lan ,wireless , bluetooth, modem,3G,GPS แบตใช้ได้นานถึง 9 ชั่วโมง มีหูหิ้วเหมือนกระเป๋า NoteBooks ใน model นี้ จะผ่านการทดสอบ MIL-STD-810F ซึ่งเป็นมาตราฐานทางทหารของประเทศสหรัฐ และกันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP54 (Dust protected, Splashing water)

2. Semi - rugged ถึงจะออกแบบมาในการใช้งานไม่สมบุกสมบันเท่า fully -rugged แต่ผ่านการทดสอบการตกจากที่สูง 76 เซนติเมตร รองรับแรงกดได้ถึง 100 kg keyboard มีระบบป้องกันน้ำมีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ตัวเครื่องน้ำหนักเบา มีระบบป้องกันน้ำหกใส่ keyboard มีระบบป้องกัน Harddisk จากแรงกระแทก (Lenovo - Active Protection System) สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่าย พกพาสะดวก เหมาะสำหรับ วิศวกร ประจำ Site งาน

3. Business - rugged เป็น model ที่ออกแบบมาใช้ในสำนักงาน แต่จะมาความทนทานมากว่า notebook ทั่วไป เนื่องจากผ่านการทดสอบการตกจากที่สูก 76 เซนติเมตร และรองรับแรงน้ำหนักได้ 100 kg ตัวเครื่องน้ำหนักเบา มีระบบป้องกันน้ำหกใส่ keyboard มีระบบป้องกัน Harddisk จากแรงกระแทก มีระบบป้องกันหน้าจอ LCD business rugged

โครงการรถไฟความเร็วสูง สายเอเชีย

โครงการรถไฟความเร็วสูง (High Speed Rail,HSR) สายเอเชีย เป็นโครงการของรัฐบาลไทย ที่จะร่วมทุนกับรัฐบาลจีน ซึ่งมีทั้งหมด 5 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย, กรุงเทพฯ-ระยอง,กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์, กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี และกรุงเทพฯ-เชียงใหม่

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ในราวปลายปี 54 ถึงต้นปี 55 น่าจะสามารถดำเนินการเปิดประมูลงานก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง สายเอเชีย เส้นทางแรกคือ กรุงเทพฯ-หนองคาย มูลค่า 1.5 แสนล้านบาท ระยะทาง 260 กิโลเมตร

โครงการรถไฟความเร็วสูง สายเอเชียดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่คณะของนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อราวเดือนมิ.ย.53 ขณะที่เมื่อปลายเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ที่ประชุมรัฐสภา เห็นชอบร่างกรอบการเจรจาความร่วมมือ ด้านการพัฒนากิจการรถไฟระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยจะร่วมมือกันพัฒนาการก่อสร้างทาง, การเดินรถไฟ และการบริหารจัดการกิจการ รถไฟความเร็วสูง ใน 5 เส้นทางหลัก

ขณะนี้ยังมีอีกหลายประเด็นหลัก ที่ยังต้องสรุปของฝ่ายไทยก่อนที่จะเปิดการเจรจากับจีน เช่น เรื่องสัดส่วนการถือหุ้นของโครงการดังกล่าว ซึ่งตามกฏหมายของไทย โครงการร่วมทุนที่เป็นรัฐวิสาหกิจ กำหนดว่าไทยต้องถือหุ้นไม่น้อยกว่า 51% นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของผู้บริหารโครงการ ซึ่งก็ต้องมีการกำหนดว่า จากฝ่ายไทยจะมีจำนวนเท่าใด จีนจำนวนเท่าใด เพื่อไม่ให้ขัดต่อกฏระเบียบของทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่องของผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการดังกล่าว อาจจะใช้แนวทางให้ผู้รับเหมาก่อสร้างไทยและจีน จับมือร่วมกันเป็นพันธมิตร และยื่นประมูลร่วมกันซึ่งเห็นว่าเป็นแนวทางที่ทั้งสองประเทศจะได้ประโยชน์

ปัญหาราคาข้าวและเงินงบประมาณที่มาจากภาษีอากร

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยระบุว่ารัฐบาลต้องสนับสนุนระบบเศรษฐกิจเสรี ซึ่งแปลว่าต้องปล่อยให้กลไกราคาทำงานโดยรัฐบาลไม่ควรเข้าไปแทรกแซงหรือยุ่งเกี่ยวกับการทำงานของตลาด แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง เราจะเห็นว่ามีตลาดสินค้าบางชนิดที่รัฐบาลจะเข้าไปควบคุมดูแลระดับราคาของมัน เพราะรัฐบาลคิดว่าถ้าปล่อยให้กลไกราคาทำงานอย่างเสรีแล้ว ผลที่เกิดขึ้นจะทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อน

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือการเข้าไปแทรกแซงระดับราคาสินค้าเกษตร ซึ่งหมายถึงการไม่ปล่อยให้ “ราคา” สินค้าเกษตรซื้อขายกันตามราคาตลาด และเมื่อไหร่ที่รัฐบาลมีนโยบายแทรกแซงการทำงานของตลาด คำถามที่ตามมาเสมอก็คือควรใช้วิธีอะไรในการแทรกแซงเพื่อให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรมากที่สุด หรือเกิดผลกระทบทางลบน้อยที่สุด ดังเช่นกรณีล่าสุด เรื่องของข้าว ที่เถียงกันว่าควรใช้วิธีใดระหว่างการรับจำนำกับการประกันราคา

อย่างไรก็ตาม หากจะกล่าวอย่างถึงที่สุดแล้ว การแทรกแซงราคาสินค้าของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นวิธีรับจำนำหรือประกันราคา ล้วนเป็นวิธีที่ทำโดยมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ จึงแทบไม่ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรยกตัวสูงขึ้น เนื่องจากรัฐบาลรับซื้อสินค้าเกษตรเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณผลผลิตทั้งหมด เช่น การเปิดรับจำนำข้าวทั้งหมดเพียง 6 ล้านตันจากผลผลิตข้าวนาปีทั้งหมดยี่สิบกว่าล้านตัน เป็นต้น จึงทำให้ผลประโยชน์จากการแทรกแซงตกอยู่กับคนกลุ่มเล็กๆ เพียงหยิบมือเดียว

คำถามคือ ถ้าเช่นนั้น รัฐบาลควรเลิกการแทรกแซงตลาดสินค้าเกษตรไปเลย จะดีหรือไม่?

คำตอบคือ ในระยะสั้น รัฐบาลคงยังต้องแทรกแซงหรือช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป เพราะถ้าปล่อยให้ตลาดทำงานเอง มันจะมีปัญหาอย่างที่กล่าวมาแล้ว (อ่านเพิ่มเติม) แต่สิ่งที่รัฐบาลควรพิจารณาอย่างจริงจังคือคิดหาวิธีที่ได้ผลจริงๆ วิธีที่ทำให้ผลประโยชน์ตกอยู่กับคนส่วนใหญ่ วิธีที่ไม่สร้างภาระด้านงบประมาณให้กับรัฐบาลมากจนเกินไป วิธีที่ไม่เปิดช่องให้เกิดการทุจริตได้อย่างง่ายๆ วิธีที่สามารถสร้างพฤติกรรมของเกษตรกรให้เน้นการพึ่งตัวเองมากกว่าการหวังพึ่งความช่วยเหลือจากรัฐบาลอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ใช้วิธีการที่มีเป้าหมายหลักอยู่เพียงแค่การเพิ่มฐานเสียงและความนิยมเท่านั้น

ส่วนในระยะยาว ทางออกที่ควรจะเป็นคือการส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า ตลอดจนช่วยพัฒนาการผลิตของเกษตรกรเพื่อให้ได้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น หรือไม่ก็ต้องหาวิธีลดต้นทุนการผลิตลงให้ได้

นอกจากนั้น การช่วยเหลือเกษตรกรยังต้องทำไปพร้อมๆ กับการพัฒนาด้านอื่นๆ เช่น การพัฒนาด้านการศึกษา การบริหารจัดการ แม้กระทั่งการพัฒนาทางด้านการเมือง เพื่อให้เกษตรกรรู้ว่าเงินที่นำมาใช้ในโครงการแทรกแซงตลาดนั้นล้วนเป็นเงินงบประมาณที่มาจากภาษีอากรทั้งสิ้น ไม่ใช่เงินจากกระเป๋าของนักการเมืองคนใดคนหนึ่ง

รายละเอียด อ่านเพิ่มเติม

ที่มา สุภาภรณ์ อัศวไชยชาญ, "รับจำนำกับการประกันราคา: ความเหมือนบนความแตกต่าง," Wednesday, 01 July 2009

Saturday, May 28, 2011

โนอาห์ เว็บสเตอร์ (Noah Webster)



โนอาห์ เว็บสเตอร์ (อังกฤษ: Noah Webster – 16 ต.ค. 2301-28 พ.ค. 2386) นักพจนานุกรม (lexicographer) เกิดที่เมืองฮาร์ตฟอร์ด ในรัฐคอนเนตทิคัต ได้รับการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเยล จบแล้วทำงานด้านกฎหมายแต่กลับชอบสอนหนังสือ เว็บสเตอร์เริ่มมีชื่อเสียงจากผลงานส่วนแรกที่ต่อมาเป็นที่รู้จักกันคือ “หนังสือหลักการสะกดคำของเว็บสเตอร์” ของ “สถาบันไวยากรณ์อังกฤษ” (พ.ศ. 2326) ก่อนปี พ.ศ. 2341 เว็บสเตอร์ยังคงยุ่งอยู่กับการเขียนบทความทางการเมือง การออกเอกสารแผ่นพับ การบรรยายตลอดจนการทำหนังสือพิมพ์จนเกษียณ



หลังเกษียณจึงได้หันมาเน้นด้านอักษรศาสตร์ที่ทำให้เว็บสเตอร์เป็นที่รู้จักในวงการพจนานุกรมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะ “พจนานุกรมภาษาอังกฤษของอเมริกา” (ชุด 2 เล่ม) โดยทำการจดทะเบียนลิขสิทธิ์เป็นครั้งแรกของสหรัฐฯ ในปีพ.ศ. 2371 ซึ่งกลายเป็นอิทธิพลหลักที่มีต่อการเขียนพจนานุกรมในสมัยต่อๆ มา นอกจากนี้ หนังสือชื่อ “หนังสือสกดคำปกน้ำเงิน” ได้ถูกนำมาใช้สอนในโรงเรียนของสหรัฐฯ เป็นเวลานานถึง 5 ชั่วคน เว็บสเตอร์จึงเกือบกลายเป็นคำเสมือนที่ใช้เรียกแทนพจนานุกรม และตัวเขาเองก็ได้รับการขนานามว่าเป็น “บิดาแห่งวิชาการและการศึกษา” ของอเมริกา ปัจจุบันพจนานุกรมของเขายังคงอยู่ในชื่อของ “พจนานุกรมเมอร์เรียม-เว็บสเตอร์”

โนอาห์ เว็บสเตอร์ มีชีวิตอยู่ตรงกับระหว่างรัชสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ปลายสมัยอยุธยาและรัชสมัยของพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 สมัยรัตนโกสินทร์

ที่มา: Thai Wikipedia

Sunday, May 08, 2011

พลับพลา เกาะหมาก รีทรีท

พลับพลา เกาะหมาก รีทรีท รีสอร์ทท่ามกลางธรรมชาติและพรรณไม้นานาชนิด และหาดทรายสีขาวบนเกาะหมาก จังหวัดตราด ที่รอคอยผู้มาเยือน... เพื่อสัมผัสความงดงามแห่งท้องทะเลในบรรยากาศส่วนตัว พร้อมบริการที่เป็นมิตรhttp://www.blogger.com/img/blank.gif


This video was created by Niramita Chantasut and her husband.

Call Center (02) 664-0861-5

ที่อยู่ 50/5 หมู่ 2 อ่าวไผ่ เกาะหมาก จ.ตราด 23120

Link:
ที่พักเกาะหมาก
Plubpla Koh Mak Retreat
มากะธานี รีสอร์ท
เดอะ ชินนาม่อน อาร์ต รีสอร์ท แอนด์ สปา
เที่ยวเกาะหมาก