Monday, December 30, 2013

Rain - Madonna (July 17, 1993)

I feel it, it's coming

Chorus:

Rain, feel it on my finger tips
Hear it on my window pane
Your love's coming down like
Rain, wash away my sorrow
Take away my pain
Your love's coming down like rain

When your lips are burning mine
And you take the time to tell me how you feel
When you listen to my words
And i know you've heard, i know it's real
Rain is what this thunder brings
For the first time i can hear my heart sing
Call me a fool but i know i'm not
I'm gonna stand out here on the mountain top
Till i feel your

(chorus)

When you looked into my eyes
And you said goodbye could you see my tears
When i turned the other way
Did you hear me say
I'd wait for all the dark clouds bursting in a perfect sky
You promised me when you said goodbye
That you'd return when the storm was done
And now i'll wait for the light, i'll wait for the sun
Till i feel your

(chorus)

Here comes the sun, here comes the sun
And i say, never go away

Waiting is the hardest thing
[it's strange i feel like i've known you before]
I tell myself that if i believe in you
[and i want to understand you]
In the dream of you
[more and more]
With all my heart and all my soul
[when i'm with you]
That by sheer force of will
[i feel like a magical child]
I will raise you from the ground
[everything strange]
And without a sound you'll appear
[everything wild]
And surrender to me, to love

Rain is what the thunder brings
For the first time i can hear my heart sing
Call me a fool but i know i'm not
I'm gonna stand out here on the mountain top
Till i feel your

Rain, i feel it, it's coming
Your love's coming down like
(repeat)

(chorus)

Rain, i feel it, it's coming
Your love's coming down like
(repeat)

Rain

Video:  Rain by Madonna (Original Version)

Saturday, December 07, 2013

นาฬิกาชีวิต รู้เวลาการทำงานของร่างกาย

นาฬิกาชีวิต รู้เวลาการทำงานของร่างกายไว้ห่างไกลโรค
ช่วง01.00-03.00 น. เป็นช่วงเวลาของตับ
เป็นเวลาควรนอนเพราะตับจะหลั่งสารมีลาโทนิน (Meratonine) เพื่อฆ่าเชื้อโรค ทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย นอกจากร่างกายจะหลั่งสารมีลาโทนินเป็นประจำแล้ว ยังหลั่งสารเอนโดรฟิน (Endrophin) ออกมาด้วย เวลาจึงไม่ควรกินอาหาร เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักและเสื่อมเร็ว โดยหน้าที่หลักของตับคือ ขจัดสารพิษในร่างกาย ส่วนหน้าที่รองคือ ช่วยไตในการดูแลผม ขน เล็บ ถ้าตับมีปัญหา ผม ขน เล็บ จะไม่สวย และยังช่วยกระเพาะย่อยอาหาร ถ้ากินบ่อย ๆ และไม่เป็นเวลาที่เหมาะสม จะทำให้ตับทำงานหนัก เพราะตับจะหลั่งน้ำย่อยออกมามาก จึงไม่ได้ทำหน้าที่หลัก เป็นเหตุให้สารพิษตกค้างในตับ
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ นอนหลับให้สนิท
อาหารที่ช่วยบำรุงตับ ได้แก่ งา น้ำผลไม้และน้ำสะอาด

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง03.00-05.00 น. เป็นช่วงเวลาของปอด
เป็นเวลาที่ควรตื่นนอน ลุกขึ้นเพื่อสูดอากาศที่บริสุทธิ์และรับแสงแดดในยามเช้า ผู้ที่ตื่นนอนช่วงนี้เป็นประจำ ปอดและผิวจะดีขึ้น
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ ตื่นนอน และออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์
อาหารที่ช่วยบำรุงปอด ได้แก่ อาหารที่อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน และวิตามินเอ เช่น ส้ม ผักใบเขียว น้ำผึ้ง หอมใหญ่

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 05.00 – 07.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่
เวลานี้จึงเหมาะที่จะขับถ่ายอุจจาระ และควรทำให้เป็นนิสัยทุกเช้า ถ้าไม่ถ่ายให้ใช้วิธีกดจุดที่ตำแหน่งสองข้างของจมูก และดื่มน้ำอุ่น 2 แก้ว หรือดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว โดยใช้น้ำ 1 แก้ว+น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ+น้ำมะนาว 4-5 ลูก
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ ขับถ่ายอุจาระ ในช่วงนี้ พยายามขับถ่ายเป็นกิจวัตร
อาหารที่ช่วยบำรุงลำสำไส้ใหญ่ ได้แก่ อาหารประเภทที่มีกากใยอาหารสูงๆ

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 07.00 – 09.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร
กระเพาะอาหารจะทำงาน ถ้ากินอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ทุกวัน กระเพาะอาหารจะแข็งแรง ถ้าปล่อยให้กระเพาะอาหารอ่อนแอ จะส่งผลให้เป็นคนตัดสินใจช้า ขี้กังวล ขาไม่ค่อยมีแรง ปวดเข่า หน้าแก่เร็วกว่าวัย
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ กินอาหารเช้า
อาหารที่ช่วยบำรุงกะเพราะ ได้แก่ ควรมีอาหารที่ให้พลังงานและสารอาหารอย่างน้อย 1 ใน 4 หรือร้อยละ 25 ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 09.00 – 11.00 น. เป็นช่วงเวลาของม้าม
ม้ามมีหน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน คนที่ปวดศีรษะบ่อย มักมาจากความผิดปกติของม้าม อาการเจ็บชายโครง สาเหตุมาจากม้ามกับตับ ผู้ที่มัก นอนหลับในช่วงเวลา 09.00-11.00 น. ม้ามจะอ่อนแอ
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ พูดน้อย กินน้อย ไม่นอนหลับ
อาหารที่ช่วยบำรุงม้าม ได้แก่ มันเทศสีแดง หรือเหลือง อาหารที่ทำจากบุก

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 11.00 – 13.00 น. เป็นช่วงเวลาของหัวใจ
หัวใจจะทำงานหนัก ควรหลีกเลี่ยงความเครียดเหตุที่ทำให้ต้องใช้ความคิดหนักและหาทางระงับอารมณ์ตื่นเต้นหรืออาการตกใจให้ได้
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ หลี่กเหลี่ยงความเครียด
อาหารที่ช่วยบำรุงหัวใจ ได้แก่ อาหารที่มีสีแดงตามธรรมชาติ เช่นถั่วแดง ผลไม้สีแดง น้ำมันปลา วิตามินบี

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 13.00 – 15.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก
ควรงดการกินอาหารทุกประเภท เพื่อให้ลำไส้ทำงาน โดยลำไส้เล็กมีหน้าที่ดูดซึมอาหาร เช่น วิตามินซี บี โปรตีน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างไข่สำหรับผู้หญิง ถ้ากรดอะมิโนน้อย ไข่จะมาไม่ครบทุกเดือน ผู้หญิงมีลำไส้ยาวกว่าผู้ชาย 11 ฟุต เพื่อให้การดูดซึมได้นานกว่า เนื่องจากต้องใช้กรดอะมิโนมากกว่าผู้ชาย เมื่อมีลำไส้ยาวกว่าจึงมีกระดูกซี่โครงมากกว่าผู้ชายข้างละ 1 ซี่
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ งดรับประทานอาหาร
อาหารที่ช่วยบำรุงลำไส้เล็ก ได้แก่ งดรับประทานอาหารทุกประเภท

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 15.00 – 17.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ
ควรออกกำลังกายหรืออบตัวให้เหงื่อออก กระเพาะปัสสาวะจะได้แข็งแรง หากอั้นปัสสาวะบ่อย ๆ ปัสสาวะจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เหงื่อที่ออกมามีกลิ่นเหม็นเหมือนปัสสาวะ
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ ทำตัวให้เหงื่อออก อาจจะเป็นการออกกำลังกาย
อาหารที่ช่วยบำรุงกะเพราะปัสสาวะ ได้แก่ ผลไม้ เช่น บิลเบอร์รี่ และดื่มน้ำสะอาดมากๆ

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 17.00 – 19.00 น. เป็นช่วงเวลาของไต
ควรทำใจให้สดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอนในช่วงเวลานี้ ผู้ใดมีอาการง่วงนอนช่วงเวลานี้ แสดงว่ามีปัญหาเรื่องไตเสื่อม ถ้านอนหลับแล้วเพ้อ แสดงว่าอาการหนักมาก
- ไตซ้าย จะควบคุมสมองด้านขวา ซึ่งควบคุมด้านความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์สุนทรีย์ รักสวยรักงาม ชอบแต่งตัว ถ้าไตซ้ายมีปัญหา อารมณ์รักสวยรักงามจะหมดไป กลายเป็นคนปล่อยเนื้อปล่อยตัว และเป็นคนขี้ร้อน
- ไตขวา จะควบคุมสมองด้านซ้าย ซึ่งควบคุมด้านความจำ ถ้าไตขวามีปัญหา ความจำจะเสื่อม และเป็นคนขี้หนาว (ผู้ที่มีไตแข็งแรงจะเป็นคนมีอายุยืน เป็นคนกล้า)
ถ้าลำไส้เล็กมีไขมันเกาะมาก อาหารที่อยู่ในรูปของสารละลายจะผ่านลำไส้เล็กไม่ได้ จึงตกเป็นภาระของไต เป็นผลให้ไตทำงานหนัก จึงกลายเป็นโรคไต ผู้ที่เป็นโรคไต สมองจะเสื่อม ปวดหลัง เป็นหวัดง่าย มีเสลดในคอ
การดูแล คือ ตอนเช้าอาบน้ำเย็น ตอนเย็นให้อาบน้ำอุ่น กรณีที่อาบน้ำไม่ได้ ให้ใช้วิธีแช่เท้า แต่น้ำควรใส่สมุนไพรที่ถูกโฉลกของผู้ป่วย เช่น ขิง ข่า กระชาย อย่างใดอย่างหนัก

ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ ทำตัวให้สดชื่น ไม่ง่วงหงาวหาวนอน
อาหารที่ช่วยบำรุงไต ได้แก่ อาหารที่มีเกลือต่ำ ความเค็มน้อย หรือสมุนไพรจีน เช่น ถั่งเฉ้า

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 19.00 – 21.00 น. เป็นช่วงเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ
ช่วงเวลานี้ควรจะสวดมนต์ ทำสมาธิ ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับเยื่อหุ้มหัวใจ คือ หัวใจโต หัวใจรั่ว เส้นโลหิตหัวใจตีบ ดังนั้นผู้ป่วยต้องระวังเรื่องตื่นเต้น ดีใจ การหัวเราะ กรณีเส้นเลือดขอด
ต้องดูเยื่อมหุ้มหัวใจให้แข็งแรง
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ ทำสมาธิ สวดมนต์
อาหารที่ช่วยบำรุงเยื่อหุ้มหัวใจ ได้แก่ อาหารจำพวกโปรตีนที่ไขมันต่ำรวมถึงวิตามินบีต่างๆ

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 21.00 – 23.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของระบบความเย็นในร่างกาย
ห้ามอาบน้ำเย็นในช่วงเวลานี้ เพราะจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย อย่าไปตากลม เพราะเป็นช่วงที่ลมเป็นพิษ
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ ห้ามอาบน้ำเย็น ห้ามตากลม ควรทำร่างกายให้อบอุ่น
อาหารที่ช่วยบำรุงระบบความร้อนของร่างกาย ได้แก่ อาหารที่รสเผ็ดร้อน เช่น ขิง โสม

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 23.00 – 01.00 น. เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี
ถุงน้ำดีเป็นถุงสำรองเก็บน้ำย่อยที่ออกมาจากตับ อวัยวะใดในร่างกายเมื่อขาดน้ำจะมาดึงน้ำจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้น เป็นผลให้อารมณ์ฉุนเฉียว สายตาเสื่อม เหงือกจะบวม ปวดฟัน นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก หรือตอนเช้าจะจาม (ถุงน้ำดีจะโยงไปถึงปอด) จะปวดศีรษะข้างเดียวหรือสองข้างโดยไม่ทราบสาเหตุ (ผู้ที่ตัดถุงน้ำดีออก เมื่อตรวจด้วยลูกดิ่งจะพบว่าถุงน้ำดีข้น มักมีอาการปวดขา ปวดสะโพก)
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ ดื่มน้ำก่อนเข้านอน
อาหารที่ช่วยบำรุงถุงน้ำดี ได้แก่ อาหารที่ไขมันต่ำ และไม่ทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ

-------------------------------------------------------------------------------
ที่มา: thaihealth.or.th