Saturday, July 02, 2022

A ML system,GPT-3, writing an academic paper on itself

เมื่อ 2 ก.ค.65 มีเพื่อนนักวิจัยคนหนึ่งที่เนคเทค (NECTEC) ได้แชร์เรื่องราวการพัฒนาการของ ML (Machine Learning) โดย ML system นี้ มีชื่อว่า GPT-3 (Generative Pretrained Transformer) จากสถาบันวิจัย Institue of Neuroscience and Physiology, University of Gothenburg, Gothenburg, Sweden ซึ่ง GPT-3 เป็น Neural network ที่ใช้งานด้าน Image recognition, Natural language processing, Predictive modeling โดยอัลกอริทึมส์ของ GPT-3 สำหรับงานด้าน Natural language processing มี Techniques ในการสร้างข้อความดังนี้ 

1. TOP P technique ใช้เลือกคำที่จะสร้างต่อไปในประโยคเพื่อให้แน่ใจว่าไวยากรณ์ของประโยคถูกต้องและเข้าใจได้

2. Frequency Penalty technique ใช้สร้างคำที่พิเศษ เฉพาะเจาะจง และหลากหลาย โดยไม่สร้างคำเดิมๆ ซ้ำๆ (non-common words)

3, Presence Penalty technique ใช้สร้างคำที่ไม่อยู่ใน training data เพื่อให้ข้อความที่สร้างมีความสมจริงและเชื่อถือได้

4. Temperature setting ใช้ควบคุมความต้องการ output ของการสร้างคำ/เขียนข้อความโดย GPT-3 และ Max lenght setting ใช้ควบคุมความยาวของข้อความที่สร้างเพื่อให้ข้อความที่สร้างไม่ซ้ำและน่าเบื่อ

สรุป GPT-3 เป็นระบบ Machine Learning ที่มีความสามารถในการเขียน academic paper ด้วยตัวเอง โดยมีมนุษย์เป็นผู้กำหนดความต้องการในการเขียน แต่ยังคงมีข้อจำกัด เช่น GPT-3 ยังไม่สามารถรับรู้และเข้าใจภาษามนุษย์ได้ในบางบริบท อีกทั้งยังไม่สามารถสร้างข้อความที่เป็นแนวความคิดใหม่หรือมุมมองต่างๆ แบบที่มนุษย์แสดงออกได้

ตัวอย่าง academic paper by GPT-3 self-writing.







บรรณานุกรม

GPT Generative Pretrained Transformer, Almira Osmanovic Thunstrom, Steinn Steingrimsson, "Can GPT-3 write an academic paper on itself, with mininal human input?", HAL id: hal-03701250, https://hal.archives-ouvertes.fr/hal-03701250, 21 Jun 2022.

Sunday, June 19, 2022

SSC#14 Casual Talk

ก่อนหน้านี้ ผมมีเรื่องเดิมๆ เกิดขึ้นกับผมอีก นั้นก็คือ อารมณ์เบื่องาน เบื่อชีวิต อยากลาออกจากงาน อีกแล้ว!!!! เพื่อนผมคนหนึ่งหลังจากทราบอารมณ์เบื่อสิ่งต่างๆ ของผม เขาก็ชวนมาพักผ่อน นั่งรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม คุยกันแบบสบายๆ (Casual Talk) ณ ราชกรีฑาสโมสรโปโลคลับ (RBSC: The Royal Bangkok Sports Club) 

 
วันที่ 18 มิ.ย.65 ช่วงค่ำ (17:30-21:30) ผมเดินทางมาถึง RBSC ก็ทำการแลกบัตร non-member ที่ รปภ. แล้วก็จอดรถ เดินไปลงชื่อ แล้วไปยังจุดนัดพบ คือ Air Bar  เมื่อเจอเพื่อน เราก็ทักทายคุยกัน เรื่องต่างๆ เพื่อนผมอยากให้ผมตั้งเป้าหมายไว้ อย่าเพิ่งลาออก เพราะความเบื่อหน่ายในเรื่องต่างๆ นอกจากนั้น เราก็คุยกันเรื่อง เกมส์กีฬา เช่น แบดมินตัน เทนนิส ว่ายน้ำ ฟุตบอล สนุกเกอร์ กอล์ฟ ฯลฯ คุยเรื่อง สาวๆ บ้าง นิดหน่อย แล้วก็ไปเดินดูรอบสถานที่ โดยสถานที่ มีความเป็นระเบียบ เรียบร้อย สะอาด ดีมากๆๆ ครับ 

สรุป ที่นี้ The Royal Bangkok Sports Club เป็นสถานที่พักผ่อน ทั้งแบบส่วนตัว ครอบครัว รวมญาติและเพื่อนพ้อง มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีเยี่ยม และสถานที่ถูกจัดระเบียบไว้อย่างดี มีความสวยงามและสะอาด นอกจากนี้ ยังวิวดีด้วย จึงถ่ายรูปบันทึกภาพมาฝากครับ 




Monday, June 13, 2022

พักผ่อนที่พัทยาเหนือ 11-12 มิ.ย.65

 Weekend ที่ผ่านมา ผมได้เดินทางไปพักผ่อนที่พัทยา โดยไปเจอพี่ชายที่พัทยาเหนือ โรงแรม Brighton Grand Pattaya ความพิเศษคือ พี่ชายผมไปพักผ่อนเนื่องในวันเกิดของเขา (10 มิ.ย.65) เมื่อผมเดินทางถึงโรงแรมที่พัก ก็ได้ห้องพักที่จองไว้เป็นห้องพักหัวมุม Seaview (2901,2902) ทำให้ได้ชมวิวทะเลพัทยาเหนือ บริเวณหาดวงศ์อมาตย์ที่มีความสวยงามอย่างมาก 

วันที่ 11 มิ.ย.65 หลังจากเข้าพักห้อง 2902 แล้ว ก็นั่งชมวิวทะเลช่วงกลางวันจากห้องพัก สวยมากๆ แล้วก็ออกเดินทางไป Terminal 21 Pattaya เพื่อเดินเล่นในห้างสักพัก จากนั้นก็ไปนั่งชมทะเลที่บริเวณหาดจอมเทียน (ดื่มเบียร์เย็นๆ ริมทะเลด้วย) พอตกเย็นก็ทานอาหารค่ำ (ข้าวต้มทะเล) ที่ถนนพัทยาเหนือ จากนั้นก็น้่งชมวิวทะเลช่วงกลางคืนจากห้องพัก จนหลับคาเก้าอี้ชมวิวในห้องเลย 

วันที่ 12 มิ.ย.65 ตื่นเช้ามา นั่งดื่มกาแฟ และชมวิวทะลยามเช้าจากห้องพัก ได้เห็นชีวิตคนย่านนี้ที่ตื่นเช้ามา มีเดินออกกำลังกายบ้าง เดินออกกำลังกายบนด้านฟ้าของตึกที่ตนเองอาศัยอยู่บ้าง ขับรถไปโน้นนี้บ้าง เช้ารถไม่ติด ประมาณ 8 โมงเช้า ผมก็ลงไปชั้น 10 เพื่อรับประทานอาหารเช้าของโรงแรม พูดคุยกับพี่ชาย แฟนของพี่ชาย และ GM ของโรงแรมแห่งนี้ จากนั้นก็ Checkout 11:45 และรำลากัน เวลา 12:00 แยกย้ายกันเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ

สรุป เป็น Weekend ที่ได้พักผ่อนกำลังดี ครับ และผมถ่ายภาพสวยๆ มาสำหรับรำลึกถึง (Time in memory)













Sunday, May 15, 2022

Artificial neural network classification of microarray data using new hybrid gene selection method

Artificial Neural Network Classification of High Dimension Data with Novel Optimisation Approach of Dimension Reduction

อีกหนึ่งของ Neural Network ที่คิดค้นเพื่อแก้ปัญหา Very High Dimension Input Feature Space ในบทความนี้ผู้เขียนจะกล่าวถึง Neural Network ของนักวิจัยชาวอินเดีย Rabia Aziz, C.K. Verma, Manoj Jha และ Namita Srivastava แห่ง Department of Mathematics and Computer Application, Maulana Azad National Institute of Technology

Learning Algorithms ของ Neural Network ใหม่นี้ มี 2 ส่วนที่แตกต่างจะ Neural Network ทั่วไป (a new hybrid gene selection method of neural network) กล่าวคือ Neural Network นี้ถูกออกแบบใหม่เพื่อใช้ในงานด้าน Bioinformatics และลดปัญหา Very High Dimension Input Feature Space ใน DNA Microarray Data โดยส่วนที่แตกต่างในส่วนที่ 1 คือ Extraction Technique โดยในส่วนนี้ Algorithm ใหม่ที่ใช้คือ Independent Component Analysis (ICA) และส่วนที่แตกต่างในส่วนที่ 2 คือ Optimisation Technique โดยใช้ Artificial Bee Colony (ABC) และ Neural Network มีรูปแบบการทำงานเป็น Supervised Learning และประยุกต์ในการสร้างแบบจำลองการจำแนกข้อมูล Cancer Classifier สำหรับงานด้าน Bioinformatics ในการแก้ปัญหา Gene Selection ของ DNA Microarray Data

บรรณานุกรม

Rabia Aziz, C.K. Verma, Manoj Jha and Namita Srivastava,"Artificial Neural Network classification of microarray data using new hybrid gene selection method", International Journal of Data Mining and Bioinformatics, Vol. 17, No.1, 2017, pp.42-65. 

Sunday, May 08, 2022

Text Adaptive Resonance Theory Neural Network

Text Adaptive Resonance Theory Neural Network

Neural Networks หรือ Artificial Neural Networks นั้นเป็น subset หนึ่งของการศึกษา Artificial Intelligence และ Machine Learning โดย Neural Network นั้นคือการศึกษากระบวนการทำงานของโครงข่ายประสาทมนุษย์แล้วทำการแปลงรูปแบบการทำงานของโครงข่ายประสาท (Neuron) เป็นแบบจำลองทางอัลกอริทึมส์ (Learning Algorithms) ที่เรียกว่าโครงข่ายประสาทเทียม (Artificial Neural Networks) โดย Neural Networks มีอัลกอริทึมส์ที่หลากหลาย แต่สามารถแบ่งประเภทของ Neural Networks ตามหลักการของ Machine Learning ได้ 2 ประเภท คือ (1) Unsupervised Learning และ (2) Supervised Learning สำหรับในบทความนี้ ผู้เขียนจะกล่าวถึง Text Adaptive Resonance Theory Neural Network โดย Neural Network นี้เป็นวิทยานิพนธ์ (Thesis) ของผู้เขียนขณะทำการศึกษาปริญญาโท ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เมื่อ 20 ปีก่อน (พ.ศ.2543-2546)

Text Adaptive Resonance Theory Neural Network เป็น Neural Network ที่มีอัลกอริทึมส์ (Learning Algorithms) แบบ Unsupervised Learning กล่าวคือเป็น Neural Network ที่ใช้การเรียนรู้แบบไม่มีผู้สอนและใช้การเรียนรู้โดยอาศัยการวัดค่าความคล้ายคลึง (Similarity Measure) เพื่อจดจำและแยก Input Pattern Feature ของสิ่งที่กำลังเรียนรู้ โดยสิ่งที่พิเศษและแตกต่างจาก Unsupervised Learning of Neural Networks ตัวอื่นๆ ก็คือ Text Adaptive Resonance Theory Neural Network จะรับ Input Pattern Feature ที่เป็น Text โดยตรง ซึ่ง Neural Network ทั่วไปจะรับ Input Pattern Fearture ที่เป็นข้อมูลตัวเลข (Numberical Feature Value) ดังนั้น Text Adaptive Resonance Theory Neural Network จึงเป็น Neural Network ที่รับ Input Pattern Feature ที่เป็นข้อมูลไม่ใช่ตัวเลข (non-numberical fearture value) ทำให้ลดปัญหา Very high dimension input feature space ที่เกิดขึ้นใน Neural Network ทั่วไป เมื่อทำการแปลงข้อมูล Text (Data Representative) ให้เป็นข้อมูลตัวเลขก่อนนำเป็น Input Pattern Feature โดยใช้  Dimensionality Reduction Technique แบบ Cartesian product of input features สำหรับ Text Adaptive Resonance Theory Neural Network นั้นมีองค์ประกอบเฉพาะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ (1) Feature Type of Weights (2) Similarity Measure และ (3) Learning Algorithm/Weight Adjustment

สรุป Text Adaptive Resonance Theory Neural Network เป็น Neural Network สำหรับ Automatic Text Processing มีการเรียนรู้แบบ Unsupervised Learning เพื่อใช้งานด้าน Document Clustering และสามารถประมวลผลข้อมูลและรับข้อมูล Text โดยตรง และเป็นการแก้ปัญหา Very high dimension input feature space ในขอบเขตการศึกษาของ Document Clustering นอกจากนี้แล้ว มีการศึกษาค้นคว้า Neural Networks แบบใหม่ที่สามารถลดปัญหา Very high dimension input feature space 

บรรณานุกรม

1. Worapoj Kreesuradej and Norraseth Chantasut, "A Text Processing Adaptive Resonance Theory Neural Network,"Proceedings of the 2002 Artificial Neural Network In Engineering Conference, Volume 12, St. Louis, Missouri, USA, November 10-13, 2002, pp.625-630, ISBN. 0-7918-0191-8.

2. Worapoj Kreesuradej, Warune Kruakai, and Norraseth Chantasut,"Clustering Text Data Using Text ART Neural Network," WSEAS Transactions on Systems , Issue 1, Volume 3, 2004, pp. 200-205, ISSN. 1109-2777.


Friday, May 06, 2022

เตรียมตัวกลับมาเขียนบล็อคใหม่อีกครั้ง

 เตรียมตัวกลับมาเขียนบล็อคใหม่อีกครั้ง 

ปัจจุบัน ผมอายุ 46 ปี ตั้งแต่ทำงานมา 10 กว่าปี (ขอสงวนอาชีพ) ก็เริ่มรู้สึกเบื่องาน ไม่อยากมาทำงานและเบื่อที่จะเรียนรู้งาน จึงอยากจะลาออกจากงาน แต่ก็ได้ปรึกษาพี่ๆ ที่ทำงาน ซึ่งผมได้รับคำแนะนำมา คือ หากลาออกจากงานแลัวมีอะไรรองรับ แล้วสิ่งที่อยากทำเมื่อลาออกจากงานไปคืออะไร จากคำถามเหล่านี ผมใช้เวลา 2 วัน ในการค้นหาคำตอบ สุดท้ายก็ได้คำตอบว่า หากผมลาออกจากงาน ผมจะไปเขียนบทความในบล็อคเดิมที่ผมเคยทำไว้ เมื่อ 10 ปีก่อน (ไม่เคยมีรายได้จากบล็อคเลย) โดยคิดว่าจะเขียนบทความในด้านเศรษฐกิจหรือเทคโนโลยีเป็นเนื้อหาหลัก เพราะผมลงทุนในหุ้นไทย หลังจากได้ให้คำตอบพี่เขาไปแล้ว คำแนะนำจากพี่คือ ให้ไปคุยกับหัวหน้าฝ่ายบุคคล โดยหัวหน้าฝ่ายบุคคลเมื่อทราบเรื่องแล้ว จึงได้แนะนำว่า ให้ผมนั่งอยู่เฉยๆ อย่าย้ายงาน อย่าลงจากตำแหน่ง และอย่าลาออก ส่วนการเขียนบล็อค สามารถทำได้เมื่อมีเวลาว่าง ไม่จำเป็นต้องลาออก แล้วอย่าคิดลาออกอีก 

เมื่อผมได้รับทราบตามข้างต้น ผมก็เริ่มต้นโดยการนั่งนิ่งๆ ที่โต๊ะทำงานตัวเอง ควบคุมอาการคิดมาก จนกระทั้งผมได้เปิดโปรแกรมเข้าระบบบล็อคเก่าที่ผมได้ทำไว้ ซึ่งก็คือ norraseth.blogspot.com และนี้คือโพสแรกในรอบ 10 ปี ในการเขียนบล็อค หลังจากนี้ ผมจะทะยอยเขียนบล็อคตามความสนใจ เพื่อสนองความต้องการส่วนตัวต่อไป หวังว่าจะมีผู้ติดตามบล็อคนี้ นะครับ

Thursday, September 10, 2020

Live & Learn ชีวิตคือการเรียนรู้

 Live & Learn ชีวิตคือการเรียนรู้


เมื่อวันที่ชีวิต เดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน

จนบางครั้งคนเรา ไม่ทันได้ตระเตรียมหัวใจ

ความสุขความทุกข์ ไม่มีใครรู้ว่าจะมาเมื่อไหร่

จะยอมรับความจริงที่เจอได้แค่ไหน


เพราะชีวิต คือชีวิต

เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป

มีสุขสมมีผิดหวัง หัวเราะหรือหวั่นไหว

เกิดขึ้นได้ทุกวัน


อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน

ตามความคิดสติเราให้ทัน

อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน

และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด


สุขก็เตรียมไว้

ว่าความทุกข์คงตามมาอีกไม่ไกล

จะได้รับความจริงเมื่อต้องเจ็บปวดไหว


เพราะชีวิต คือชีวิต

เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป

มีสุขสมมีผิดหวัง หัวเราะหรือหวั่นไหว

เกิดขึ้นได้ทุกวัน


อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน

ตามความคิดสติเราให้ทัน

อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน

และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

Monday, December 30, 2013

Rain - Madonna (July 17, 1993)

I feel it, it's coming

Chorus:

Rain, feel it on my finger tips
Hear it on my window pane
Your love's coming down like
Rain, wash away my sorrow
Take away my pain
Your love's coming down like rain

When your lips are burning mine
And you take the time to tell me how you feel
When you listen to my words
And i know you've heard, i know it's real
Rain is what this thunder brings
For the first time i can hear my heart sing
Call me a fool but i know i'm not
I'm gonna stand out here on the mountain top
Till i feel your

(chorus)

When you looked into my eyes
And you said goodbye could you see my tears
When i turned the other way
Did you hear me say
I'd wait for all the dark clouds bursting in a perfect sky
You promised me when you said goodbye
That you'd return when the storm was done
And now i'll wait for the light, i'll wait for the sun
Till i feel your

(chorus)

Here comes the sun, here comes the sun
And i say, never go away

Waiting is the hardest thing
[it's strange i feel like i've known you before]
I tell myself that if i believe in you
[and i want to understand you]
In the dream of you
[more and more]
With all my heart and all my soul
[when i'm with you]
That by sheer force of will
[i feel like a magical child]
I will raise you from the ground
[everything strange]
And without a sound you'll appear
[everything wild]
And surrender to me, to love

Rain is what the thunder brings
For the first time i can hear my heart sing
Call me a fool but i know i'm not
I'm gonna stand out here on the mountain top
Till i feel your

Rain, i feel it, it's coming
Your love's coming down like
(repeat)

(chorus)

Rain, i feel it, it's coming
Your love's coming down like
(repeat)

Rain

Video:  Rain by Madonna (Original Version)

Saturday, December 07, 2013

นาฬิกาชีวิต รู้เวลาการทำงานของร่างกาย

นาฬิกาชีวิต รู้เวลาการทำงานของร่างกายไว้ห่างไกลโรค
ช่วง01.00-03.00 น. เป็นช่วงเวลาของตับ
เป็นเวลาควรนอนเพราะตับจะหลั่งสารมีลาโทนิน (Meratonine) เพื่อฆ่าเชื้อโรค ทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย นอกจากร่างกายจะหลั่งสารมีลาโทนินเป็นประจำแล้ว ยังหลั่งสารเอนโดรฟิน (Endrophin) ออกมาด้วย เวลาจึงไม่ควรกินอาหาร เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักและเสื่อมเร็ว โดยหน้าที่หลักของตับคือ ขจัดสารพิษในร่างกาย ส่วนหน้าที่รองคือ ช่วยไตในการดูแลผม ขน เล็บ ถ้าตับมีปัญหา ผม ขน เล็บ จะไม่สวย และยังช่วยกระเพาะย่อยอาหาร ถ้ากินบ่อย ๆ และไม่เป็นเวลาที่เหมาะสม จะทำให้ตับทำงานหนัก เพราะตับจะหลั่งน้ำย่อยออกมามาก จึงไม่ได้ทำหน้าที่หลัก เป็นเหตุให้สารพิษตกค้างในตับ
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ นอนหลับให้สนิท
อาหารที่ช่วยบำรุงตับ ได้แก่ งา น้ำผลไม้และน้ำสะอาด

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง03.00-05.00 น. เป็นช่วงเวลาของปอด
เป็นเวลาที่ควรตื่นนอน ลุกขึ้นเพื่อสูดอากาศที่บริสุทธิ์และรับแสงแดดในยามเช้า ผู้ที่ตื่นนอนช่วงนี้เป็นประจำ ปอดและผิวจะดีขึ้น
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ ตื่นนอน และออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์
อาหารที่ช่วยบำรุงปอด ได้แก่ อาหารที่อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน และวิตามินเอ เช่น ส้ม ผักใบเขียว น้ำผึ้ง หอมใหญ่

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 05.00 – 07.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่
เวลานี้จึงเหมาะที่จะขับถ่ายอุจจาระ และควรทำให้เป็นนิสัยทุกเช้า ถ้าไม่ถ่ายให้ใช้วิธีกดจุดที่ตำแหน่งสองข้างของจมูก และดื่มน้ำอุ่น 2 แก้ว หรือดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว โดยใช้น้ำ 1 แก้ว+น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ+น้ำมะนาว 4-5 ลูก
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ ขับถ่ายอุจาระ ในช่วงนี้ พยายามขับถ่ายเป็นกิจวัตร
อาหารที่ช่วยบำรุงลำสำไส้ใหญ่ ได้แก่ อาหารประเภทที่มีกากใยอาหารสูงๆ

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 07.00 – 09.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร
กระเพาะอาหารจะทำงาน ถ้ากินอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ทุกวัน กระเพาะอาหารจะแข็งแรง ถ้าปล่อยให้กระเพาะอาหารอ่อนแอ จะส่งผลให้เป็นคนตัดสินใจช้า ขี้กังวล ขาไม่ค่อยมีแรง ปวดเข่า หน้าแก่เร็วกว่าวัย
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ กินอาหารเช้า
อาหารที่ช่วยบำรุงกะเพราะ ได้แก่ ควรมีอาหารที่ให้พลังงานและสารอาหารอย่างน้อย 1 ใน 4 หรือร้อยละ 25 ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 09.00 – 11.00 น. เป็นช่วงเวลาของม้าม
ม้ามมีหน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน คนที่ปวดศีรษะบ่อย มักมาจากความผิดปกติของม้าม อาการเจ็บชายโครง สาเหตุมาจากม้ามกับตับ ผู้ที่มัก นอนหลับในช่วงเวลา 09.00-11.00 น. ม้ามจะอ่อนแอ
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ พูดน้อย กินน้อย ไม่นอนหลับ
อาหารที่ช่วยบำรุงม้าม ได้แก่ มันเทศสีแดง หรือเหลือง อาหารที่ทำจากบุก

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 11.00 – 13.00 น. เป็นช่วงเวลาของหัวใจ
หัวใจจะทำงานหนัก ควรหลีกเลี่ยงความเครียดเหตุที่ทำให้ต้องใช้ความคิดหนักและหาทางระงับอารมณ์ตื่นเต้นหรืออาการตกใจให้ได้
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ หลี่กเหลี่ยงความเครียด
อาหารที่ช่วยบำรุงหัวใจ ได้แก่ อาหารที่มีสีแดงตามธรรมชาติ เช่นถั่วแดง ผลไม้สีแดง น้ำมันปลา วิตามินบี

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 13.00 – 15.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก
ควรงดการกินอาหารทุกประเภท เพื่อให้ลำไส้ทำงาน โดยลำไส้เล็กมีหน้าที่ดูดซึมอาหาร เช่น วิตามินซี บี โปรตีน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างไข่สำหรับผู้หญิง ถ้ากรดอะมิโนน้อย ไข่จะมาไม่ครบทุกเดือน ผู้หญิงมีลำไส้ยาวกว่าผู้ชาย 11 ฟุต เพื่อให้การดูดซึมได้นานกว่า เนื่องจากต้องใช้กรดอะมิโนมากกว่าผู้ชาย เมื่อมีลำไส้ยาวกว่าจึงมีกระดูกซี่โครงมากกว่าผู้ชายข้างละ 1 ซี่
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ งดรับประทานอาหาร
อาหารที่ช่วยบำรุงลำไส้เล็ก ได้แก่ งดรับประทานอาหารทุกประเภท

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 15.00 – 17.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ
ควรออกกำลังกายหรืออบตัวให้เหงื่อออก กระเพาะปัสสาวะจะได้แข็งแรง หากอั้นปัสสาวะบ่อย ๆ ปัสสาวะจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เหงื่อที่ออกมามีกลิ่นเหม็นเหมือนปัสสาวะ
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ ทำตัวให้เหงื่อออก อาจจะเป็นการออกกำลังกาย
อาหารที่ช่วยบำรุงกะเพราะปัสสาวะ ได้แก่ ผลไม้ เช่น บิลเบอร์รี่ และดื่มน้ำสะอาดมากๆ

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 17.00 – 19.00 น. เป็นช่วงเวลาของไต
ควรทำใจให้สดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอนในช่วงเวลานี้ ผู้ใดมีอาการง่วงนอนช่วงเวลานี้ แสดงว่ามีปัญหาเรื่องไตเสื่อม ถ้านอนหลับแล้วเพ้อ แสดงว่าอาการหนักมาก
- ไตซ้าย จะควบคุมสมองด้านขวา ซึ่งควบคุมด้านความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์สุนทรีย์ รักสวยรักงาม ชอบแต่งตัว ถ้าไตซ้ายมีปัญหา อารมณ์รักสวยรักงามจะหมดไป กลายเป็นคนปล่อยเนื้อปล่อยตัว และเป็นคนขี้ร้อน
- ไตขวา จะควบคุมสมองด้านซ้าย ซึ่งควบคุมด้านความจำ ถ้าไตขวามีปัญหา ความจำจะเสื่อม และเป็นคนขี้หนาว (ผู้ที่มีไตแข็งแรงจะเป็นคนมีอายุยืน เป็นคนกล้า)
ถ้าลำไส้เล็กมีไขมันเกาะมาก อาหารที่อยู่ในรูปของสารละลายจะผ่านลำไส้เล็กไม่ได้ จึงตกเป็นภาระของไต เป็นผลให้ไตทำงานหนัก จึงกลายเป็นโรคไต ผู้ที่เป็นโรคไต สมองจะเสื่อม ปวดหลัง เป็นหวัดง่าย มีเสลดในคอ
การดูแล คือ ตอนเช้าอาบน้ำเย็น ตอนเย็นให้อาบน้ำอุ่น กรณีที่อาบน้ำไม่ได้ ให้ใช้วิธีแช่เท้า แต่น้ำควรใส่สมุนไพรที่ถูกโฉลกของผู้ป่วย เช่น ขิง ข่า กระชาย อย่างใดอย่างหนัก

ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ ทำตัวให้สดชื่น ไม่ง่วงหงาวหาวนอน
อาหารที่ช่วยบำรุงไต ได้แก่ อาหารที่มีเกลือต่ำ ความเค็มน้อย หรือสมุนไพรจีน เช่น ถั่งเฉ้า

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 19.00 – 21.00 น. เป็นช่วงเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ
ช่วงเวลานี้ควรจะสวดมนต์ ทำสมาธิ ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับเยื่อหุ้มหัวใจ คือ หัวใจโต หัวใจรั่ว เส้นโลหิตหัวใจตีบ ดังนั้นผู้ป่วยต้องระวังเรื่องตื่นเต้น ดีใจ การหัวเราะ กรณีเส้นเลือดขอด
ต้องดูเยื่อมหุ้มหัวใจให้แข็งแรง
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ ทำสมาธิ สวดมนต์
อาหารที่ช่วยบำรุงเยื่อหุ้มหัวใจ ได้แก่ อาหารจำพวกโปรตีนที่ไขมันต่ำรวมถึงวิตามินบีต่างๆ

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 21.00 – 23.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของระบบความเย็นในร่างกาย
ห้ามอาบน้ำเย็นในช่วงเวลานี้ เพราะจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย อย่าไปตากลม เพราะเป็นช่วงที่ลมเป็นพิษ
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ ห้ามอาบน้ำเย็น ห้ามตากลม ควรทำร่างกายให้อบอุ่น
อาหารที่ช่วยบำรุงระบบความร้อนของร่างกาย ได้แก่ อาหารที่รสเผ็ดร้อน เช่น ขิง โสม

-------------------------------------------------------------------------------
• ช่วง 23.00 – 01.00 น. เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี
ถุงน้ำดีเป็นถุงสำรองเก็บน้ำย่อยที่ออกมาจากตับ อวัยวะใดในร่างกายเมื่อขาดน้ำจะมาดึงน้ำจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้น เป็นผลให้อารมณ์ฉุนเฉียว สายตาเสื่อม เหงือกจะบวม ปวดฟัน นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก หรือตอนเช้าจะจาม (ถุงน้ำดีจะโยงไปถึงปอด) จะปวดศีรษะข้างเดียวหรือสองข้างโดยไม่ทราบสาเหตุ (ผู้ที่ตัดถุงน้ำดีออก เมื่อตรวจด้วยลูกดิ่งจะพบว่าถุงน้ำดีข้น มักมีอาการปวดขา ปวดสะโพก)
ข้อควรปฎิบัติในช่วงเวลานี้คือ ดื่มน้ำก่อนเข้านอน
อาหารที่ช่วยบำรุงถุงน้ำดี ได้แก่ อาหารที่ไขมันต่ำ และไม่ทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ

-------------------------------------------------------------------------------
ที่มา: thaihealth.or.th

Sunday, October 20, 2013

ยิ่งโตขึ้น เพื่อนยิ่งน้อยลง -- ธรรมชาติของวัย

ตลอดช่วงชีวิตคนเรา มันมีการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันไปครับ
ทำให้ความรู้สึกต่างๆต่อมิตรสหายแตกต่างกันไปครับ

+ วัยเรียน (ประถม มัธยม) เพื่อนเรียน เล่นกีฬา ทำการบ้านด้วยกัน
เริ่มเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตด้วยกัน แต่โดยมากก็มีข้อจำกัดที่ต้องยึดติดกับผู้ปกครองอยู่

+ วัยมหาลัย สนุกสุดๆ สำมะเลเทเมาได้เพียบ อิสระเสรี มีแฟนได้ก็ช่วงนี้
มิตรสหายก็ไปไหนไปกัน เที่ยวด้วยกัน สนิทกันมากครับ

+ วัยเริ่มทำงาน ก็ยังสนุกกันอยู่ เริ่มมีเงินเที่ยวบ้าง
มิตรสหายก็จากมหาลัยที่ยังไปมาหาสู่กัน
สักพักก็จะเริ่มห่างหายกันไป เพราะมีแฟนกัน

+ วัยแต่งงาน ก็เริ่มห่างเหินจากเพื่อนๆ เพราะต้องเริ่มสร้างครอบครัว
ยังพอมีเพื่อนอยู่บ้าง แต่ก็ต้องรู้จักเพื่อนของคู่ชีวิตเพิ่ม
ความสนิทสนมเริ่มน้อยลง เพราะต้องให้เวลากับคู่ชีวิต

+ วัยลูกเล็ก อันนี้หมดสภาพการเที่ยวแล้วครับ
เพื่อนก็เริ่มห่างหาย เพราะเราไม่สะดวกในการไปเที่ยวด้วย

+ วัยลูกโตขึ้น เพื่อนใหม่เริ่มเข้ามาจากพ่อๆแม่ๆของเพื่อนลูก
ส่วนใหญ่ก็คุยกันเรื่องลูก ถามปัญหา แล้วก็ช่วยๆกันครับ

+ วัยลูกเติบโต อันนี้ก็มัวแต่ปวดหัวเรื่องลูกในวัยรุ่นครับ
แล้วก็การทำงานที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น เวลาให้เพื่อนแทบจะไม่มีแล้วครับ
อย่างเก่งก็ไปกินข้าว คุยรำลึกความหลังกันแป๊บๆ
ไอ้แบบจะเที่ยวหัวหกก้นขวิดก็คงไม่มีแล้ว

+ วัยเกษียณ... อ่ะอันนี้จริงๆแล้ว เริ่มจะได้เพื่อนกลับมาแล้วครับ
เพราะต่างคนต่างก็หมดภาระการทำงาน เริ่มมีเวลาว่างมากขึ้น
หลายคนจะเริ่มออกเที่ยวกันอีก ก็เพราะเริ่มอยู่ว่างๆกันแล้ว
แต่เพื่อนๆก็จะเริ่มลดๆลงเรื่อยๆ เพราะหมดสภาพกันไปแล้วครับ

สรุปแล้ว เพื่อนๆก็มีลดๆเพิ่มๆเรื่อยๆครับตามสภาพการณ์ของชีวิต

แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ...
อย่าหยุดที่จะรู้จักคนใหม่ๆ ไม่ว่าจะต่างวัยกันแค่ไหน
คนทุกคนมีสิ่งใหม่ๆ ให้เราเรียนรู้เสมอ
อย่าไปคิดว่าต้องความสุขแบบเดิมๆเท่านั้น จึงจะเรียกว่าสุข
เราเรียนรู้แล้วก็สร้างความสุขแบบใหม่ๆได้เสมอครับ

อ้างอิงจาก pantip.com/family