Thursday, January 21, 2010

3G ในประเทศไทย

ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในประเทศไทยกำลังก้าวผ่านยุค 2.75G ไปสู่ยุค 3G แต่ก็มีบางคนที่ก้าวผ่านไปนานแล้ว ที่ว่ามีคนข้ามผ่านไปใช้ 3G กันแล้ว ก็คือกลุ่มลูกค้าที่ใช้เครือข่าย CDMA (Hutch และ CAT CDMA) โดยเครือข่าย CDMA ในประเทศไทยได้เริ่มใช้ระบบ CDMA2000 1xEV-DO มาได้ประมาณ 1 ปีแล้ว ซึ่งระบบนี้ทำให้ลูกค้าสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงสุด 2.4 Mbps ซึ่งมีความเร็วพอๆ กับอินเตอร์เน็ต ADSL หรือ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ทำให้กลุ่มลูกค้า CDMA ในประเทศไทยนิยมนำโทรศัพท์มือถือ ไปใช้งานเป็นโมเด็มเพื่อเล่นอินเตอร์เน็ต มากกว่าใช้งานด้านเสียงหรือสนทนา

ส่วนลูกค้า AIS / Dtac / True ซึ่งใช้ระบบเครือข่าย GSM ก็อยู่ในช่วงเริ่มต้นของ 3G เพราะในปัจจุบันนี้เริ่มมีการทดลองใช้งานเครือข่าย 3G ในบางพื้นที่กันแล้ว สำหรับเครือข่าย 3G ทางฝั่ง GSM จะมีชื่อเรียกเครือข่ายว่า UMTS หรือ WCDMA ซึ่งทั้งสองเครือข่ายอาจมีที่มาแตกต่างกัน แต่ก็สามารถทำงานร่วมกันได้ ดังนั้นผมจะขอเรียกรวมกันว่าเครือข่าย 3G โดยเครือข่าย 3G ทางฝั่ง GSM ก็สามารถทำความเร็วในการรับหรือดาวน์โหลดข้อมูลได้สูงสุด 2 Mbps เช่นเดียวกับระบบ CDMA2000 1xEV-DO แต่ในการใช้งานจริงอาจทำความเร็วไม่สูงขนาดนี้ เพราะจะมีลูกค้าใช้งานในเวลาเดียวกัน ทำให้ความเร็วถูกแบ่งกันใช้งาน

เครือข่าย 3G ถูกพัฒนาเพื่อตอบสนองการใช้งานด้านข้อมูลเป็นหลัก เช่น การรับ-ส่งไฟล์เพลง, วีดีโอ, รูปภาพ, การดาวน์โหลดคอนเท้นต์, การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต, การใช้บริการเสริม เป็นต้น ลูกค้าสามารถส่งเพลง MP3 หรือไฟล์วีดีโอ ได้ในเวลาที่รวดเร็ว ในขณะที่เครือข่าย GPRS / EDGE ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันจะใช้เวลานานมากๆ ดังนั้นผู้ที่เหมาะสมกับการใช้งาน 3G จึงเป็นกลุ่มลูกค้า ที่เน้นการใช้งานอินเตอร์เน็ตหรือใช้งานด้านข้อมูลเป็นหลัก หากคุณใช้โทรศัพท์เพียงเพื่อการติดต่อสื่อสาร สนทนา และ ส่งข้อความ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้บริการ 3G เลย เพราะเครือข่าย 2.75G ในปัจจุบันก็ยังคงเปิดให้ใช้บริการต่อไป

Video call หรือ การสนทนาแบบเห็นหน้าคู่สนทนาผ่านกล้องด้านหน้า เป็นบริการบนเครือข่าย 3G ที่หลายคนเฝ้ารอ ถ้าใครใช้โทรศัพท์มือถือที่รองรับเครือข่าย 3G ก็จะเห็นได้ว่าในบางรุ่นจะมีฟังก์ชั่น วีดีโอคอลล์หรือสนทนาวีดีโอ ขึ้นมาให้ใช้งานแล้ว แต่ว่ายังไม่สามารถใช้งานได้จริง เพราะเครือข่าย 3G ยังไม่ครอบคลุม หากใครสนใจเทคโนโลยี Video call แนะนำให้สอบถาม Call center ที่คุณใช้บริการเครือข่าย เพื่อสอบถามถึงพื้นที่การทดลองใช้ระบบ 3G จะได้นำโทรศัพท์มือถือไปทดลองใช้งาน ซึ่งการใช้งานจริงภาพคู่สนทนาที่เห็นผ่านจอแสดงผล ก็จะไม่มีความคมชัดมากนัก และ การแสดงผลก็ไม่ราบรื่น ส่วนเสียงสนทนาก็อาจจะมาไม่ตรงกับภาพที่คุณเห็น อีกทั้งท่าทางการสนทนาที่ต้องยกโทรศัพท์มือถือไว้ตรงหน้าตลอดเวลา ทำให้ไม่สะดวกที่จะใช้ Video call เป็นเวลานาน ทำให้บริการนี้ยังไม่เป็นที่นิยมใช้ของลูกค้า

Streaming เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณชมคลิปวีดีโอ รายการโทรทัศน์ วิทยุ และ ฟังเพลงออนไลน์ ได้ในแบบเรียลไทม์ โดยโทรศัพท์มือถือของคุณต้องมีแอพพลิเคชั่นที่รองรับความบันเทิงในรูปแบบ Streaming ติดตั้งไว้ด้วย ซึ่งในประเทศไทยก็มีวางจำหน่ายอยู่แล้วหลายรุ่น แต่ยังไม่เป็นที่นิยมใช้ ฟังก์ชั่นนี้ อาจเป็นเพราะความล่าช้าในการดาวน์โหลด เพราะปัจจุบันยังคงใช้เครือข่าย EDGE / GPRS ในการเข้าถึงสื่อ ในรูปแบบสตรีมมิ่ง แต่ถ้าเครือข่าย 3G เปิดให้บริการ คุณก็สามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น บริการความบันเทิงในรูปแบบสตรีมมิ่ง ก็จะได้รับความนิยมตามมา โดยเฉพาะเว็บไซต์ YouTube.com เริ่มส่งแอพพลิเคชั่น ใส่ไว้ในโทรศัพท์มือถือไปแล้วหลายรุ่น เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงวีดีโอคลิปของเว็บไซต์ได้สะดวก และนอกจากนี้คุณก็ยังสามารถส่งวีดีโอหรืออัพโหลดเข้าไปไว้ตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่เปิดให้บริการได้เช่นกัน

นอกจากเครือข่าย 3G แล้ว ประเทศไทยก็จะมีเครือข่าย 3.5G ด้วยเช่นกัน นั่นคือระบบ HSPA (High Speed Packet Access) โดยเทคโนโลยีนี้ จะถูกเรียกได้ 2 แบบ คือ HSDPA (High Speed Downlink Packet Access) ใช้ในการรับข้อมูล กับ HSUPA (High Speed Uplink Packet Access) ใช้ในการส่งข้อมูล สำหรับ HSPDA จะมีความเร็วในการรับหรือดาวน์โหลดข้อมูลสูงสุด 14 Mbps ส่วน HSUPA จะมีความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุด 384 Kbps แต่ในอนาคตอาจมีการพัฒนาให้การรับ- ส่งข้อมูลมีความเร็วเท่าๆ กัน สำหรับการใช้งาน HSDPA ในชีวิตจริงเมื่อมีลูกค้าใช้งานพร้อมกันหลายคนอาจทำความเร็วได้สูงสุดเพียง 2 Mbps โดยประมาณ ซึ่งก็ยังถือว่าเร็วกว่าการใช้เครือข่าย 3G แน่นอน

เครือข่าย 3G หรือ 3.5G จะเริ่มต้นใช้งานในประเทศไทยได้อย่างจริงจังก็คงช่วงปลายปี พ.ศ. 2552 โดยจะมีการจัดสรรคลื่นความถี่ 2100 MHz ซึ่งจะถูกนำไปใช้งาน 3G เป็นหลัก แล้วกว่า 3G จะครอบคลุมทั่วไทยคงใช้ระยะเวลานานพอสมควร หรือ อาจจะมีใช้เป็นบางพื้นที่ก็เป็นได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า พื้นที่ใดมีการใช้งานด้านข้อมูลมากกว่าเสียง อย่างเช่น จังหวัดเชียงใหม่ ที่เปิดให้บริการ 3G ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว แล้วก็ตามมาด้วยกรุงเทพมหานคร ส่วนจังหวัดชลบุรีก็กำลังดำเนินการติดตั้งเครือข่าย 3G อยู่ ซึ่งจะเริ่มใช้ในอีกไม่นานนี้

ผลกระทบเมื่อ 3G ถูกเปิดให้ใช้บริการอย่างเต็มรูปแบบ จะส่งผลโดยตรงไปที่ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงทันที เพราะเครือข่ายโทรศัพท์มือถือมีความสะดวกในการใช้งานและติดตั้งอุปกรณ์มากกว่า สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก หรือใช้งานในขณะเดินทางก็ทำได้ ดังนั้นในอนาคตผู้ให้บริการอินเตอร์ความเร็วสูง อาจจะต้องมีการปรับกลยุทธการค้า ในการลดราคาค่าบริการ หรือ ออกโปรโมชั่นเสริม อย่างไรก็ตามผลกระทบนี้จะส่งผลมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับเครือข่าย 3G จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหนเช่นกัน

ที่มา: TouchphoneView.com http://www.touchphoneview.com/press/3ginthai/3g.htm

1 comment:

Anonymous said...

อีกประมานกี่เดือนครับ จนจะถึงนครราชสีมา......