การสื่อสารความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยีไร้สาย(Broadband Wireless Access: BWA) เช่นเทคโนโลยี WiMAX เป็นบริการที่จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง อันเนื่องมาจากการจุดเด่นของเทคโนโลยีไร้สาย
นโยบายในกรณีคลื่นความถี่ของ BWA
1.การใช้คลื่นย่าน 2.3 GHz จะเป็นไปในเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะให้บริการจากเมืองใหญ่ไปสู่เมืองเล็ก
2.การใช้คลื่นย่าน 2.5 GHz จะเป็นไปในเชิงบริการเพื่อสังคมและประชาชนในพื้นที่ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน
การนำเทคโนโลยี BWA มาใช้สำหรับงานสาธารณะ จะเป็นการนำเอาจุดเด่นของโครงข่ายไร้สายในเรื่องของการสะดวก รวดเร็ว และต้นทุนต่ำในการขยายโครงข่ายมาใช้ โดยรูปแบบของการนำมาใช้ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดตั้งศูนย์กลางไว้คอยเป็นแหล่งกระจายบริการ หรือข้อมูลข่าวสารไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่ต้องการได้
WiMAX ใช้ความถี่วิทยุ 2500-2520 MHz
ความแตกต่างระหว่าง BWA(WiMAX) และ 3G เทคโนโลยี 3G และ BWA เช่น WiMAX ต่างเป็นเทคโนโลยีที่รองรับการให้บริการบรอดแบนด์ด้วยกันทั้งคู่ แต่ความแตกต่างของทั้งสองเทคโนโลยีนั้นจะเกิดจากสายการพัฒนาของเทคโนโลยี คือ เทคโนโลยี 3G เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนามาจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เน้นการสื่อสารเสียง ส่วนเทคโนโลยี BWA จะมีจุดเริ่มต้นจากการใช้บริการอินเทอร์เน็ต ที่ต้องการให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการได้โดยไม่ยึดติดกับสถานที่ที่มีเพียงเฉพาะข่ายสายเข้าถึงเท่านั้น โดยในระยะแรกจะยังไม่ให้ความสำคัญกับบริการสื่อสารเสียง
สรุปความแตกต่างหรือข้อได้เปรียบเสียเปรียบของทั้งสองเทคโนโลยี ดังนี้
-ความสามารถ Mobility - ผู้ใช้โทรศัพท์จะสามารถสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพการเคลื่อนที่ลักษณะใด แต่ BWA ในปัจจุบันนั้น ถึงแม้ผู้ใช้งานจะสามารถใช้ได้แม้ขณะเคลื่อนที่ แต่การเคลื่อนที่นั้นยังคงต้องอยู่ในพื้นที่การให้บริการของสถานีฐานเดิม ทั้งนี้ เนื่องจาก BWA ยังไม่มีการพัฒนาในเรื่องของการ Hand-over หรือ Hand-off เช่นที่โทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถทำได้
-ความสามารถในเรื่องความเร็ว – ในประเด็นนี้หมายถึงความเร็วในการสื่อสารอินเทอร์เน็ต ซึ่ง BWA มีความได้เปรียบ 3G กล่าวคือ BWA สามารถรองรับการสื่อสารที่มีความเร็วเริ่มต้นที่ 2 Mbps ส่วน 3G นั้นรองรับความเร็ว 384 kbps
-บริการและคุณภาพ – ทั้งสองเทคโนโลยีจะมีข้อได้เปรียบในแต่ละบริการ เช่น 3G จะมีคุณภาพการให้บริการสื่อสารเสียงที่ดีกว่า ส่วนบริการด้านข้อมูลหรือวีดีโอหรือพหุสื่อนั้น BWA จะทำได้ดีกว่า เนื่องจากความสามารถในการสื่อสารความเร็วสูงได้ดีกว่านั้นเอง
ตัวอย่างของบริการที่สัมพันธ์กับความเร็ว เช่น บริการสื่อสารเสียง มีความต้องการความเร็วเพีย 4kpbs-64kpbs ส่วนวีดีโอนั้นจะต้องการความเร็วมากกว่า 1 Mbps
แนวโน้มในอนาคต แนวโน้มของการพัฒนาเทคโนโลยีของทั้งสองนั้น มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่เป็นเสมือนบริการเดียวกัน คือ 3G จะพัฒนาเรื่องการสื่อสารข้อมูลให้เร็วขึ้น ส่วน BWA จะพัฒนาให้รองรับการสื่อสารเสียงที่มีคุณภาพและมี Mobility ในลักษณะเดียวกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ ซึ่งในอนาคตอาจกลายเป็น Service Convergence นั้นคือรวมบริการเบ็ดเสร็จทั้งเสียงและข้อมูลเพื่อรองรับการสื่อสารข้อมูลมัลติมีเดีย
ที่มา: WiMAX - Dr. Natee Sukonrat
Saturday, September 11, 2010
3G -> 3.9G
3.9G คือ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 หรือ 3G ความเร็วสูงสุดในการสื่อสารของ 3.9G คือ 42 Mbps ส่วนความเร็วสูงสุดของ 3G คือ 2 Mbps ดังนั้น 3.9G คือ เวอรชั่นล่าสุดของ 3G แต่มีความเร็วในการรับส่งสัญญาณเร็วกว่าประมาณ 20 เท่า 3.9G จึงเป็นการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
เมื่อความเร็วในการส่งข้อมูลมากขึ้น ทำให้คุณภาพของบริการดีขึ้น เช่น
-บริการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต (Mobile Broadband)ด้วยความเร็วสูงมากขึ้น
-บริการมัลตืมีเดีย เช่น การส่งคลิปเสียง/คลิปวีดีโอ เล่นเกมส์ ดาวน์โหลดเพลงและรูปภาพ video conference และบริการในลักษณะของ triple play คือ การใช้โทรศัพท์ การใช้อินเตอร์เน็ต และการรับส่งข้อมูลอื่นได้พร้อมกัน นอกจากนี้ยังทำให้การรับชมรับฟัง Hi Density TV เป็น real time มากขึ้นและคมชัดมากขึ้น
-นอกจากประโยชน์ที่เกิดในชีวิตประจำวันแล้ว ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของ 3.9G คือ การเพิ่มโอกาสของการสื่อสารความเร็วสูงในพื้นที่ที่มีความยากลำบากในการเข้าถึงทางสาย เช่น พื้นที่ในส่งภูมิภาคของประเทศ ดังนั้นเทคโนโลยีนี้จึเป็นช่องทางที่สำคัญในการกระจายข้อมูลข่าวสารและความรู้สู่ประชาชน
3.9G เป็นเทคโนโลยีเดียวกับ 3G ซึ่งจะสามารถรองรับเครื่องของลูกข่ายของ 3G และ 2G ได้ทั้งหมด ใบอนุญาต 3.9G จะเป็นย่านความถี่ 2100 MHz
ที่มา: 3.9G - Dr. Natee Sukonrat
เมื่อความเร็วในการส่งข้อมูลมากขึ้น ทำให้คุณภาพของบริการดีขึ้น เช่น
-บริการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต (Mobile Broadband)ด้วยความเร็วสูงมากขึ้น
-บริการมัลตืมีเดีย เช่น การส่งคลิปเสียง/คลิปวีดีโอ เล่นเกมส์ ดาวน์โหลดเพลงและรูปภาพ video conference และบริการในลักษณะของ triple play คือ การใช้โทรศัพท์ การใช้อินเตอร์เน็ต และการรับส่งข้อมูลอื่นได้พร้อมกัน นอกจากนี้ยังทำให้การรับชมรับฟัง Hi Density TV เป็น real time มากขึ้นและคมชัดมากขึ้น
-นอกจากประโยชน์ที่เกิดในชีวิตประจำวันแล้ว ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของ 3.9G คือ การเพิ่มโอกาสของการสื่อสารความเร็วสูงในพื้นที่ที่มีความยากลำบากในการเข้าถึงทางสาย เช่น พื้นที่ในส่งภูมิภาคของประเทศ ดังนั้นเทคโนโลยีนี้จึเป็นช่องทางที่สำคัญในการกระจายข้อมูลข่าวสารและความรู้สู่ประชาชน
3.9G เป็นเทคโนโลยีเดียวกับ 3G ซึ่งจะสามารถรองรับเครื่องของลูกข่ายของ 3G และ 2G ได้ทั้งหมด ใบอนุญาต 3.9G จะเป็นย่านความถี่ 2100 MHz
ที่มา: 3.9G - Dr. Natee Sukonrat
Subscribe to:
Posts (Atom)