Tuesday, August 28, 2012

ประวัติ พลเอก นพดล จันทสูตร

พลเอก พหล สง่าเนตร     ประพันธ์

          พลเอก นพดล จันทสูตร         เป็นบุตร นายเปี๋ยน นางไฉน
เกิด ๙๐ ปีกุน จำรูญวัย                     ครอบครัวใหญ่ พี่น้องร่วม รวม ๑๐ คน
เป็นเด็กเก่ง เด็กดี ศรีเมืองตราด         เฉลียวฉลาด  แข็งขยัน หมั่นฝึกฝน
มุมานะ ทุกทาง เพื่อสร้างตน              อดทน สมคำ " ลูกน้ำเค็ม "
          จากบทเรียน สาหัส ประวัติศาสตร์     หนุ่มเมืองตราด รุ่นใหม่ หัวใจเข้ม
มองเห็นภาพ นักรบไทย แล้วใจเต็ม             อิ่มเอม อยากเป็น เช่นบรรพชน
เข้ากรุงฯ มุ่งสอบ เข้าเตรียมทหาร               ด้วยสามารถ จึงสอบผ่าน บรรลุผล
เป็นรุ่น ๘ น.ต.ท. นพดล                          เริ่มต้น ก่อสร้าง " เส้นทางดาว "
" สุภาพบุรุษลุมพีนี " สองปีครบ             จุดแรกจบ เริ่มจุดใหม่ ไปอีกก้าว
บนเส้นทาง แห่งไฟฝัน อันสกาว           เพริศพราว เป็น " นายร้อย จปร. "
เรียนดี มีน้ำใจ ให้เพื่อนเพื่อน               ไม่แชเชือน ช่วยเหลือใคร ไม่ต้องขอ
ห้าปีหนัก เหนื่อยเท่าไร ไม่ย่อท้อ          สานต่อ ฝันยิ่งใหญ่ " นายร้อยตรี "
           ด้วยใจรัก คะแนนถึง จึงเลือกได้       เป็นหนึ่งใน ทหารปืนใหญ่ ๓๐ ที่
เลือกตำแหน่ง ลงปักต์ใต้ ไปทันที               ป.พัน ๕ ทัพภาค ๔ แดนสงคราม
ภาคภูมิ สมสง่า ราชาสนามรบ                   เจนจบ ทุกด้าน งานสนาม
เป็น ฝอ.๓ กรม ป.๕ สง่างาม                   จึงได้ข้าม กลับมา เรียนเสนาธิการ
จบเสธฯ คะแนนดี เลือกที่อยู่                  ประจำ กพ. เพื่อเป็นผู้ ดูแลทหาร
เริ่มบรรจุ ปลด ย้าย ถึงวายปราณ             ทุกด้าน สิทธิ ขวัญ กำลังใจ
แต่ด้วยรัก และชำนาญ การวิเคราะห์    ผู้บังคับบัญชา เห็นเหมาะเปลี่ยนงานใหม่
มาทำงาน สายการข่าว จึงก้าวไกล      เติบใหญ่ เก่งด้าน การข่าวกรอง
ข่าวทัพภาค ข่าว ทบ. ถึง ศรภ.          สืบต่อ เก่งเกินใคร ไม่มีสอง
เป็น ผอ.เปลี่ยนไป อยู่หลายกอง        จึงได้ครอง ตำแหน่งใหญ่ เป็นนายพล
          เริ่มต้น พลตรี ปี ๔๔              อีก ๓ ปี เปลี่ยนยศใหม่ ไปอีกหน
ก้าวหน้า ก้าวไกล กว่าหลายคน          เป็น พลเอก นพดล สมดังใจ
          จากเริ่มต้น บนเส้นทาง สร้างความฝัน      จนถึงวัน เกษียณ อย่างสดใส
ทำเพื่อชาติ ไม่น้อยหน้า กว่าใครใคร           ภาคภูมิใจ รับใช้ชาติ ราช ประชา
หลังเกษียณ ยังเข้มแข็ง ในหน้าที่           เป็นพ่อ เป็นสามี ที่เลิศค่า
ดูแลบ้าน สองบุตรี ศรีภรรยา               ร่วมชีวา สุขสันต์  กัน ๔ คน
ยังคงมี น้ำใจ ให้ผองเพื่อน              ได้เยี่ยมเยือน สังสรรค์ กันหลายหน
ร่วมก๊วนกอล์ฟเพื่อน "หงษ์"เพื่อน"สธน"     เป็นที่รัก ของทุกคน ไม่เปลี่ยนแปลง
          แต่ชีวิต ก็เป็นไป ตาม "ไตรลักษณ์"   พุทธองค์ ทรงชี้หลัก ประจักษ์แจ้ง
ทุกบทบาท คือฉากผ่าน การแสดง      ตามกฎแห่ง " อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา "
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วแตกดับ                ถมทับ ทุกข์ทน ทั่วหน้า
บีบบังคับ จับอย่างไร ไม่ได้มา           เป็นไปตาม ห้วงเวลา " กฎแห่งกรรม "
          เพื่อนนพดล ต้องทุกข์ทน เพราะป่วยไข้     กายร้อน แต่หัวใจ ยังชื่นฉ่ำ
" พ่อ-แม่-ลูก " ร่วมสู้ภัย ใช้ใจนำ          ใช้หลักธรรม รักษาใจ ไม่ยอมแพ้
ประคอง สติ ตั้งมั่น                             สั่งความ ทุกสิ่งอัน ไว้แน่วแน่
เตรียมพร้อม น้อมรับ ความปรวนแปร      ฝากเพื่อน ดูแล จัดการงาน
กำลังใจ ครอบครัว หัวใจหลัก                น้ำใจรัก แรงกว่า ยาทุกขนาน
ลูก-เมีย จับมือพ่อไว้ ใจเบิกบาน            ขอเพียงการ อยู่ด้วยกัน จนวันสุดท้าย
          ในที่สุด เพื่อนรัก ก็จากเพื่อน       ทิ้งลูกเมีย ให้เสมือน หัวในสลาย
ตา มองตา น้ำตา ยังพร่าพราย               ถึงทำใจ ก็ไม่ง่าย เหมือนที่คิด
           เพื่อน นพดล เพื่อนรัก               เถอะไปพัก สรวงสวรรค์ อันวิจิตร
ด้วยบุญเพื่อน บุญครอบครัว บุญญาติมิตร        ร่วมอุทิศ รวมไป ให้เพื่อนแล้ว
ขอกุศล กรรมดี ที่เพริศแพร้ว                ส่องแนว นำวิถี สู่ " ที่บุญ "
           " นรชาติ วางวาย มลายสิ้น        อินทรีย์ ถูกเผา เป็นเถ้าฝุ่น
เหลือเพียงแต่ ความดี ที่เป็นทุน             ทรงคุณ ประดับไว้ ในโลกา "

ที่มา: งานพระราชทานเพลิงศพ พลเอก นพดล จันทสูตร วันจันทร์ที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร

Saturday, August 18, 2012

Love Lives by Steven Tyler

"Love Lives" is a song by Aerosmith frontman, Steven Tyler. It was written by Tyler, Kara DioGuardi, and Marti Frederiksen. The song is the theme to the 2010 Japanese sci-fi movie, Space Battleship Yamato. The song was released in digital format on Amazon MP3 and on a physical CD through Amazon.com's regular shop.
Tracklisting
  1. "Love Lives"
  2. "Love Lives" (Acoustic Version)
  3. "Love Lives" (Piano Version)
  4. "Love Lives" (Instrumental)
Lyric

I looked at you, you looked at me,
I knew it then, but you couldn't see it,
And now you've come around.
I walk away, you stay behind,
But I've got the memories to remind me,
Of how you used to...
Hold me so tight, be by my side,
And make it alright...

Love gives, and love takes,
Yeah it'll keep you up in the middle of night
And catch you when you're falling
Love is, what love makes,
If you let it go it'll always come back,
When it hears you calling,
LOVE LIVES...

I know you're there, you always were,
There'll be an end to all this hurting,
But how many tears will fall?
Before you're back into my arms
So I can tell you I've been dying
Without you...
Too many nights, are passing us by,
But we'll make it by, yeah...

Love gives, and love takes,
Yeah it'll keep you up in the middle of night
And catch you when you're falling
Love is, what love makes,
If you let it go it'll always come back,
When it hears you calling.
Love lifts you up and lets you fly
And makes you think you'll never die,
And it's just like livin' in heaven
And you'll never ever wanna come down...

'Cause love is, what love makes,
And true love, never breaks.

'Cause Love gives, and love takes,
It'll keep you up in the middle of night,
And catch you when you're falling
Love is, what love makes,
If you let it go it'll always come back,
When it hears you...

Love gives, and love takes,
Yeah it'll keep you up in the middle of night.
And catch you when you're falling
Love is, what love makes,
Yeah if you let it go it'll always come back,
When it hears you calling,
LOVE LIVES...

LOVE LIVES...
1. "Love Lives"
2. "Love Lives" (Acoustic Version)
3. "Love Lives" (Piano Version)
4. "Love Lives" (Instrumental)

Wednesday, July 25, 2012

2011 Ranking of the Top 20 Brands

RankPrevious RankBrandRegion/CountrySectorBrand Value ($m)
11United StatesBeverages71,861
22United StatesBusiness Services69,905
33United StatesComputer Software59,087
44United StatesInternet Services55,317
55United StatesDiversified42,808
66United StatesRestaurants35,593
77United StatesElectronics35,217
817United StatesElectronics33,492
99United StatesMedia29,018
1010United StatesElectronics28,479
1111JapanAutomotive27,764
1212GermanyAutomotive27,445
1314United StatesBusiness Services25,309
148FinlandElectronics25,071
1515GermanyAutomotive24,554
1613United StatesFMCG23,997
1719South KoreaElectronics23,430
1816FranceLuxury23,172
1920JapanAutomotive19,431
2022United StatesBusiness Services17,262
Reference: Interbrand - Best Global Brands 2011

Tuesday, May 15, 2012

พอเพียง พอใจ พอดี....นั้นแหละดี

การรับราชการเป็นอาชีพที่มั่นคง มีรายได้แน่นอน มีเส้นทางเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ราชการที่ชัดเจน ผู้ได้รับราชการแล้วเจริญรุ่งเรือง ไม่เคยถูกตั้งกรรมการสอบสวน ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย แพ่งและอาญา มีแต่เจริญก้าวหน้าตามหลัก “ผู้ใหญ่ดึง ผู้น้อยดัน คนเสมอกันสนับสนุนประชาชนให้การยอมรับ” สามารถรับราชการจนเกษียณอายุนับว่าเป็นบุคคลที่มีวิริยะ อุตสาหะ อดทนอดกลั้น สู้ทนฟันฝ่าอุปสรรคนานัปการ จึงประสบความสำเร็จในชีวิตการงานควรแก่การยกย่องสรรเสริญว่าเป็นข้าราชการ มืออาชีพ

วันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี นอกจากเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณแล้ว ยังเป็นวันเกษียณอายุราชการ ผู้อาวุโสบางท่านเป็นสุขใจเมื่อ “พ้นพงหนาม” บางท่านทำใจได้ยากยังหลงมัวเมาในผลประโยชน์ ยศ อำนาจ วาสนา บางท่านเตรียมขึ้นศาลเพื่อเบิกความ แก้ต่างคดีที่เป็นผลพวงจากการทำงานในอดีต หลายท่านสุขภาพย่ำแย่ ขณะที่หลายๆ ท่านสร้างสมคุณความดีไว้มาก เป็นผู้ทำงานแล้วได้ทั้งงานและน้ำใจคน ความรู้สึกศรัทธาเคารพรัก เป็นบุญบารมีที่เสริมส่งให้เป็นปูชนียบุคคล สามารถ “นั่งอยู่ในใจคน” ทั้งชีวิตการงานและชีวิตจริง “ท่านอยู่เราดีใจ ท่านเกษียณไปเราต่างอาลันหา”

แท้จริงแล้ว ตำแหน่งหน้าที่การงาน ล้วนแต่เป็นสิ่งสมมุติขึ้น เที่ยงแท้แน่นอนนั้น ไม่มีเป็นเพียง “สมบัติผลัดกันชม” ยิ่งเจริญวัย สังขารยิ่งเสื่อมลง อายุขัยก็สั้นน้อยลงๆ ตามลำดับ ยิ่งตำแหน่งหน้าที่สูงขึ้น ผู้คนที่รู้จักคุ้นเคยก็หนีห่างมากขึ้นๆ เข้าลักษณะ “ยิ่งสูง ยิ่งหนาว” นี่คือสัจธรรมแห่งชีวิตราชการ

ความสุขที่แท้จริงในชีวิตสามัญชนหาใช่ตำแหน่งหน้าที่การงานไม่ แต่วรพรมงคล คือพรสีประการที่บุคคลอยากได้อยากมีอยากเป็น คืออายุ วรรณะ สุยะ พละ ย่อมบังเกอดขึ้นแก่ผู้มีความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นปกติ ดังนั้น จงพอใจในสิ่งที่เรามียินดีในสิ่งที่เราได้ ดังภาษิตฝรั่งว่า Be satisfied in whatever you have และพุทธภาษิตและมงคล 38 ประการที่ว่า “สนฺตุฏฐี จ ปรมํ ธนํ - สนฺตุฎฐี จ เอตม์มํ คลมุตฺตมํ” ความพอใจในสิ่งที่เรามี ยินดีในสิ่งที่เราได้ เป็นทรัพย์อย่างยิ่งและเป็นอุดมมงคล

ปรัชญาชีวิต “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นคติชีวิตที่ข้าราชการควรน้อมนำมาประพฤติปฏิบัติอย่างจริงจัง ดำรงชีวิตอย่างเรียบง่าย ประหยัด ยึดหลักสายกลาง “มชฺฌมาปฏิปทา” ควบคู่กับการถึงพร้อมด้วยความหมั่น ถึงพร้อมด้วยการรักษาเลี้ยงชีวิตตามสมควร และรู้จักคบมิตรที่ดี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองจากเดิมที่ว่า “ข้าราชการเป็นผู้มีรายได้ต่ำ รสนิยมสูง หนี้สินพอประมาณ เกลียดการดูหมิ่น” เปลี่ยนมาเป็น ข้าราชการรุ่นใหม่ ใสสะอาด ปราศจากทุจริต ดำรงชีวิตด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

การเก็บออมเงินเป็นนิสัย จะช่วยให้เรามีฐานะการเงินที่มั่นคง ทุกเดือนพึงจัดสรรเงินรายได้ไว้เป็นเงินออมส่วนหนึ่งตอบแทนบุพการีส่วนหนึ่ง เลี้ยงชีพและให้จ่ายในครอบครัวอีกส่วนหนึ่ง การกู้เงินและผ่อนชำระสินค้าเงินผ่อนและบัตรเครดิตเป็นสิ่งที่พึงระมัดระวัง อย่างยิ่ง อย่าให้เกิดสภาวะ “หนี้สินล้นพ้นตัว ชักหน้าไม่ถึงหลัง”

ปัจจุบันภาวะหนี้สินของข้าราชการค่อนข้างสูง มีทั้งผ่อนบาน ผ่อนรถยนต์ ผ่อนชำระเงินกู้ธนาคาร – สหกรณ์ ฯลฯ เหล่านี้เป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงมาก การที่จะบังคับใจตัวเองให้เก็บออมเงินได้นั้น การกู้สามัญจากสหกรณ์ออมทรัพย์แล้วฝากเข้าบัญชีออมทรัพย์พิเศษรับดอกเบี้ยทบ ต้นรายเดือนและได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถบังคับตัวเองให้ต้องเก็บออมเงินไว้เป็น ประจำทุกเดือนระยะสั้นยอมขาดทุน แต่ระยะยาวได้กำไรเพราะได้ดอกเบี้ยทบต้น เงินปันผลและเฉลี่ยคืน มากน้อยแล้วแต่กำลังทรัพย์ของแต่ละคน

ข้าราชการยุคปัจจุบันมีฐานะเป็นมนุษย์เงินเดือนหากดำรงชีวิตแบบเรียบง่าย ประหยัด ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่เห่อตามคนอื่น แต่ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เราก็จะมีวิถีชีวิตแห่งการดำรงชีวิตที่เหมาะที่ควร สร้างทั้งความสุขกายและสุขใจในขณะเดียวกัน แม้เงินรายได้ไม่มากนัก แต่ก็อยู่อย่างมีความสุข เป็นความสุขที่แท้จริงและยั่งยืน

ดัชนีชี้วัดระดับการพัฒนาประเทศมิได้อยู่ที่รายได้อย่างเดียว ความรวยย่อมไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิตแต่ความสุขต่างหากที่เป็นสิ่งที่เรา ต้องการ แล้วท่านละ “What is the best valuable thing in your life?”
สำหรับผมแล้วความสุขอยู่ที่...เพียงพอ...พอใจ...พอดี...

“รู้จักพอ ก่อสุข ทุกสถาน รู้จักกาลเวลา พาสุกใส รู้จักตน พ้นทุกข์ เป็นสุขใจ รู้จักใคร ก็ไม่สู้ รู้จักตน”
ขอให้ท่านมีความสุขกับชีวิตจริงและชีวิตการงานครับ

ผู้เขียนบทความ: ทักษิณ อัครวิชัย 

สร้างสุขให้จิตใจ

มนุษย์เราทุกคนที่เกิดมามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ทุกชีวิตย่อมประสบกับปัญหาด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาส่วนตัวและปัญหาสังคม ปัญหาที่ประสบนั้น ต่างกันบ้าง เหมือนกันบ้าง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนจะต้องต่อสู้ด้วยความพยายามอดทน เพื่อที่จะหาวิธีแก้ไขปัญหาชีวิตที่เกิดขึ้นแก่ตนอยู่ตลอดเวลา เพราะชีวิตที่ดีมีความสุขคือชีวิตที่สามารถแก้ปัญหาได้

สิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตมนุษย์ ที่ต่างดิ้นรนแสวงหา คือ ปัจจัย 4 ได้แก่ เครื่องนุ่งห่ม อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และสิ่งอำนวยความสุขอื่นๆ ในการแสวงหานั้น ไม่ควรแสวงหาจนเกินขอบเขตเกินความพอดี เกินความจำเป็น ควรรู้จักพอ เพราะใจของคนเราเมื่อตกไปสู่อำนาจของความอยาก ความรู้จักพอก็ไม่มี เหมือนไฟไม่มีวันอิ่มด้วยเชื้อ เมื่อไม่สามารถควบคุมความปรารถนาของใจไว้ได้ ยิ่งได้มาเท่าไรก็อยากได้เพิ่มเป็นทวีคูณ

การแสวงหาปัจจัยเพื่อสนองความอยากของตนเองเช่นนี้ นอกจากจะทำตัวให้เดือดร้อนแล้ว ยังก่อทุกข์ให้เกิดขึ้น ถ้าไม่สามารถจะควบคุมใจของตนเองไว้ได้ อาจแสวงหาในทางทุจริตได้ เท่ากับทำตนให้ตกเป็นทาสของความอยาก ในสภาวะสังคมปัจจุบัน ควรดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย เพราะการดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่ายจะทำตนให้พ้นจากสภาพความวุ่นวายสับสนนั้นได้

คุณธรรมที่สำคัญสำหรับปลูกฝังให้เกิดความรู้จักพอหรือความพอดีในใจนั้น คือ ความสันโดษ คำว่า สันโดษ แปลว่า ความยินดีด้วยของที่ตนมีอยู่ ท่านแบ่งไว้ 3 ลักษณะด้วยกันคือ

1. ยินดีพอใจในสิ่งที่ตนได้ในสิ่งที่ตนมี ได้เท่าไหร่ มีเท่าไหร่ ก็ยินดีเท่านั้น ในสภาวะในฐานะที่ตนกำลังมีกำลังเป็นหรือได้รับอยู่ เพื่อป้องกันความทุกข์ที่จะเกิดจากความผิดหวัง เพราะถ้าบุคคลไม่สามารถจะหยุดความพอใจของตนไว้ได้ เมื่อได้รับหรือมีอะไรไม่พอใจในสิ่งที่ได้หรือสิ่งที่มี เมื่อความผิดหวังเกิดขึ้นแล้ว ความไม่ชอบใจก็เกิดตามมา ดังนั้นควรฝึกใจให้มีความพอดียินดีตามมีตามได้ ความทุกข์ใจก็ไม่เกิด

2. ยินดีพอใจตามกำลังของตนที่มีอยู่ หมายความว่า ให้รู้จักประมาณในความรู้ความสามารถของตน กระตุ้นเตือนตนให้รู้จักใช้ความสามารถของตนให้เต็มที่ ไม่ให้เป็นคนเกียจคร้าน คุณธรรมข้อนี้สอนให้บุคคลมิให้เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ฝึกให้เกิดความขยันหมั่นเพียรในการใช้กำลังในทางที่ถูกให้พอดี

3. ยินดีพอใจในสิ่งที่สมควรและยินดีพอใจพอสมควร หมายถึง การใช้กำลังให้ได้มาซึ่งปัจจัย และปัจจัยนั้นต้องเป็นปัจจัยที่เหมาะสม คุณธรรมข้อนี้ สอนให้บุคคลรู้จักคำว่า อิ่มคือพอ เพราะมากไปกว่านี้ก็เกินความจำเป็นไร้ประโยชน์ เหมือนน้ำที่เต็มแก้ว เอาน้ำไปเติมใหม่ก็มีแต่จะล้นออกมาใช้ประโยชน์ไม่ได้

ฉะนั้น ควรที่เราทุกคนจะมีความพอใจ พอดี พอเพียง ถ้าบุคคลมีคุณธรรมทั้ง 3 ประการนี้ประจำใจแล้ว จะอยู่ในสังคมใด ประเทศใด ก็ทำให้สังคมนั้น ประเทศนั้นมีความเจริญรุ่งเรือง มีความสงบสุขอย่างแท้จริง

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

Sunday, March 25, 2012

Net Security

ความปลอดภัยบนโลกอินเทอร์เน็ต
วิธีการเจาะข้อมูลหรือรบกวนระบบคอมพิวเตอร์อาจทำได้ง่าย ๆ เหมือนการลงชื่อเข้าใช้อีเมล ซึ่งตามรายงานแล้วนั่นเป็นวิธีที่แฮกเกอร์ชาวจีนใช้กับเป้าหมายที่เป็นบุคลากรทางการทหารของสหรัฐอเมริกา โดยกระทำการ “ฟิชชิ่ง” หรือเจาะระบบเพื่อขโมยข้อมูลโดยอาศัยคำที่ใช้กันทั่วไปในการลงท้ายอีเมล เช่น “ด้วยความเคารพอย่างสูง” หรือ “ขอแสดงความนับถือ” หรือแม้กระทั่งการลงท้ายจดหมายด้วยตัวย่ออย่าง “วี/อาร์” ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2554

กลยุทธ์และการโจมตีดังกล่าวทำให้รัฐบาลต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพยายามรักษาระบบเครือข่ายให้มีความปลอดภัยและนำหน้าคนร้ายไปหนึ่งก้าว

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ประกาศยุทธศาสตร์การดำเนินงานในโลกไซเบอร์เมื่อเดือนกรฎาคม พ.ศ. 2554 โดยกำหนดแผนการดูแลโลกเสมือนจริงให้เหมือนกับเป็นพื้นที่ปฏิบัติการหนึ่ง ทางกระทรวงเปิดเผยว่ามีแผนที่จะทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งพันธมิตรนานาชาติเพื่อ “ลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับขีดความสามารถในโลกไซเบอร์ของสหรัฐฯ และพันธมิตร ในขณะเดียวกันก็ปกป้องและเคารพหลักความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพของพลเมือง สิทธิในการแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ และการสร้างนวัตกรรมที่ทำให้โลกไซเบอร์เป็นส่วนหนึ่งของความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงของประเทศสหรัฐอเมริกา”

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ประเทศอินเดียได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบมาตรการความมั่นคงแห่งชาติ โดยเน้นการพิจารณาถึงสิ่งที่ประเทศอาจประสบในแง่ของความมั่นคงทางไซเบอร์

“ปัญหาความมั่นคงเปลี่ยนแปลงไป ประเทศอินเดียมีความเจริญก้าวหน้า ขณะเดียวกันปัญหาด้านความมั่นคงก็พัฒนาไปด้วย” หนังสือพิมพ์ เดอะไทม์ส ออฟ อินเดีย อ้างถึงคำกล่าวของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2554 “ถึงเวลาที่จะพิจารณาสถานการณ์ด้านความมั่นคงแห่งชาติในแง่ของปัญหาด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ตลอดจนความมั่นคงทางด้านพลังงาน”

สมาชิกของหน่วยเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบความมั่นคงประกอบด้วยอดีตผู้นำหน่วยของกองทัพเรือและกองทัพอากาศของอินเดีย พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองและนิวเคลียร์ ซึ่งหน่วยเฉพาะกิจดังกล่าวมีเวลาหกเดือนในการจัดทำรายงาน

ในขณะเดียวกัน อินเดียและสหรัฐอเมริกาได้ลงนามในข้อตกลงเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 เพื่อความร่วมมือในการรักษาความมั่นคงในโลกไซเบอร์ ข้อตกลงดังกล่าวได้กำหนดแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่สำคัญเกี่ยวกับความมั่นคงทางไซเบอร์ และแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญพิเศษระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ โดยจัดตั้งชุดตอบรับสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติทางคอมพิวเตอร์และแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ รัฐบาลหรือกองทัพใดที่ไม่มีระบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยเพื่อใช้ในการรับส่งข้อมูลสำคัญ ควรหาวิธีที่จะปรับปรุงระบบเครือข่ายของตน

อ่านเพิ่มเติม

ที่มา: _____,"ความปลอดภัยบนโลกอินเทอร์เน็ต, Net Security", Asia Pacific Defense Forum, 2012-01-01.

วิธีการประเมินกำลังเงิน ในการซื้อบ้านหรือที่อยู่อาศัย

โดยทั่วไปผู้ซื้อบ้านมักจะมีเงินเก็บออมส่วนหนึ่ง ซึ่งมักจะไม่เพียงพอที่จะซื้อบ้านได้ด้วยเงินสด ดังนั้น เงินที่ขาดจึงต้องอาศัยกู้เอาจากธนาคาร หรือสถาบันการเงินต่าง ๆ แต่เนื่องจากสถาบันเหล่านี้ มักจะให้กู้เพียงประมาณร้อยละ 70-80 ของราคาซื้อขาย หรือมูลค่าประเมินของบ้าน (พร้อมที่ดิน) ดังนั้น ผู้ซื้อบ้านจะต้องมีเงินเก็บออมอย่างน้อยร้อยละ 20-30 ของราคาบ้านจึงจะสามารถกู้เงินและซื้อบ้านได้
เงินที่เก็บออมร้อยละ 20-30 นี้เอง ที่ผู้ซื้อมักจะต้องจ่ายเป็น "เงินดาวน์" ในการซื้อบ้านหากบ้านยังสร้างไม่เสร็จ เจ้าของโครงการมักจะให้เราผ่อนเป็นงวด ๆ ได้ในเวลาประมาณ 5-18 เดือน
ในการวางแผนการเงินเพื่อซื้อบ้าน คุณอาจเริ่มต้นจากวิธีใดวิธีหนึ่งใน 2 วิธี คือ

วิธีที่หนึ่ง คุณทราบราคาบ้านที่จะขายแล้วมาคำนวณว่าคุณจะซื้อและผ่อนได้หรือไม่?
วิธีที่สอง คุณทราบรายได้ของคุณแล้วมาคำนวณว่าคุณจะซื้อบ้านได้แบบใด ในราคาใดได้บ้าง?

อ่านเพิ่มเติม

ที่มา: ฝ่ายวิชาการและข้อมูลที่อยู่อาศัย ธนาคารอาคารสงเคราะห์

Thursday, March 08, 2012

Securing the Cyber Sphere

การพิทักษ์สมรภูมิไซเบอร์
ตลอดศตวรรษที่ผ่านมากองทัพจำต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทันกับความก้าวหน้าทางอาวุธและเทคโนโลยี เมื่อไม่นานมานี้การตระหนักถึงความเป็นไปได้อย่างสูง ที่ประเทศต่าง ๆ อาจถูกดึงให้เข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามไซเบอร์ทำให้กองทัพต้องหันมาทบทวนแผนการรบของตนใหม่อีกครั้งเพื่อรับมือกับความขัดแย้งในอนาคต การปฏิบัติการในยุคสงครามไซเบอร์นั้น กองทัพจำเป็นต้องตรวจสอบทุกแง่มุมของหลักนิยมที่ใช้ในปัจจุบันเพื่อเผชิญกับความท้าทายใหม่ของสมรภูมิรบแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 21 (ช่วงระหว่าง พ.ศ. 2544-2643)

ยุทธศาสตร์และยุทธวิธีทางทหารเบื้องต้นหลายประการที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุง และกองทัพต้องพิจารณา การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ทั้งในสงครามตามแบบแผนและอสมมาตร นอกจากนี้ ทักษะความชำนาญทางทหารแทบทุกด้านจะต้องบรรจุการฝึกอบรมเกี่ยวกับความรู้ทางไซเบอร์ไว้ เพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดจากสงครามไซเบอร์ ทั้งนี้เนื่องจากการโจมตีทางไซเบอร์มักจะเกิดขึ้นโดยไม่ทราบตัวผู้ก่อเหตุ ลึกลับซับซ้อนและรวดเร็ว ดังนั้นกองทัพจึงจำเป็นต้องทบทวนกระบวนการตัดสินใจที่เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์การตอบโต้ตามปกติ

การปรับตัวที่สำคัญอีกประการหนึ่งของกองทัพในยุคสงครามไซเบอร์ คือ การประเมินภัยคุกคามทางไซเบอร์ต่อระบบอาวุธที่ใช้ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง การออกแบบระบบอาวุธในอนาคตทั้งหมดต้องคำนึงถึงการลดโอกาสที่จะถูกรบกวน หรือทำลายจากการโจมตีทางไซเบอร์ให้เหลือน้อยที่สุด


ระหว่างการประชุมในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 พลโทฉกาจ ชัยสุริยา ผู้บัญชาการกองทัพบกศรีลังกากล่าวว่า ศรีลังกายังเผชิญกับภัยคุกคามของสงครามไซเบอร์จากบรรดาแนวร่วมของกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬที่ถูกรัฐบาลปราบปรามไป [เอเจนซ์ ฟรานซ์ เพรส]

อ่านเพิ่มเติม

อ้างอิง
จอห์น บูมการ์เนอร์,"Securing the Cyber Sphere, การพิทักษ์สมรภูมิไซเบอร์", Asia Pacific Defense Forum: Cyber Evolution, Volume 37, Issue 1, 2012-01-01.

Wednesday, December 21, 2011

‎10 อันดับโรงเรียนที่มีผู้หญิงหน้าตาดีที่สุด

‎10 อันดับโรงเรียนที่มีผู้หญิงหน้าตาดีที่สุด
1.โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย
2.โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
3.โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์
4.โรงเรียนเซนต์ฟรังค์ซีสซาเวียร์คอนแวนต์
5.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
6.โรงเรียนสตรีวิทยา
7.โรงเรียนสายน้ำผึ้ง
8.โรงเรียนเบญจมราชาลัย
9.โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์
10.โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์

Saturday, September 17, 2011

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช


สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (จีน: 鄭昭; พินอิน: Zhèng Zhāo; แต้จิ๋ว: Dênchao) มีพระนามเดิมว่า สิน (ชื่อจีนเรียกว่า เซิ้นเซิ้นซิน) พระราชบิดาเป็นจีนแต้จิ๋ว ได้สมรสกับหญิงไทยชื่อ นกเอี้ยง ภายหลังเป็นกรมสมเด็จพระเทพามาตย์ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในสมัยอาณาจักรธนบุรี ทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2310 เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 เมื่อมีพระชนมายุได้ 48 พรรษา รวมสิริดำรงราชสมบัติ 15 ปี พระราชโอรส-พระราชธิดา รวมทั้งสิ้น 30 พระองค์

พระราชกรณียกิจที่สำคัญในรัชสมัยของพระองค์ คือ การกอบกู้เอกราชจากพม่าภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง โดยขับไล่ทหารพม่าออกจากราชอาณาจักรจนหมดสิ้น และยังทรงทำสงครามตลอดรัชสมัยเพื่อรวบรวมแผ่นดินซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของขุนศึกก๊กต่าง ๆ ให้เป็นปึกแผ่น เช่นเดียวกับขยายพระราชอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูประเทศในด้านต่าง ๆ ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติหลังสงคราม ทรงส่งเสริมทางด้านเศรษฐกิจ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม วรรณกรรม และการศึกษา เนื่องจากพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อแผ่นดินไทย รัฐบาลจึงได้ประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปีเป็น "วันสมเด็จพระเจ้าตากสิน" และยังทรงได้รับสมัญญานามมหาราช

ที่มา สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี Wikipedia

Tuesday, August 23, 2011

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช


สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 2 มีพระนามเดิมว่า พระองค์ดำ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาและพระวิสุทธิกษัตริย์ (พระราชธิดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัยและสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ) เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 2098 ที่พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลกทรงมีพระเชษฐภคิณีคือ พระสุพรรณกัลยา ทรงมีพระอนุชาคือ สมเด็จพระเอกาทศรถ (องค์ขาว) และทรงเป็นพระราชนัดดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัย พระนามของพระองค์ปรากฏในลายลักษณ์อักษรหลายฉบับ เช่น พระนเรศ วรราชาธิราช, พระนเรสส, องค์ดำ จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าพระนาม นเรศวรได้มาจากที่ใด สันนิษฐานเบื้องต้นว่า เพี้ยนมาจาก สมเด็จพระนเรศ วรราชาธิราช มาเป็น สมเด็จพระนเรศวร ราชาธิราช เสด็จขึ้นครองราชเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 สิริรวมการครองราชสมบัติ 15 ปี เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 รวมพระชนมพรรษา 50 พรรษา

ราชการสงครามในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่งของชาติไทย พระองค์ได้กู้อิสรภาพของไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก และได้ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทย อย่างกว้างใหญ่ไพศาล นับตั้งแต่ประเทศพม่าตอนใต้ทั้งหมด นั่นคือ จากฝั่งมหาสมุทรอินเดียทางด้านตะวันตก ไปจนถึงฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางด้านตะวันออก ทางด้านทิศใต้ตลอดไปถึงแหลมมลายู ทางด้านทิศเหนือก็ถึงฝั่งแม่น้ำโขงโดยตลอด และยังรวมไปถึงรัฐไทใหญ่บางรัฐ

เสด็จขึ้นครองราชย์
นับตั้งแต่สมเด็จพระนเรศวรประกาศอิสรภาพเป็นต้นมา หงสาวดีได้เพียรส่งกองทัพเข้ามาหลายครั้ง แต่ก็ถูกกองทัพกรุงศรีอยุธยาตีแตกพ่ายไปทุกครั้ง เมื่อสมเด็จพระมหาธรรมราชาเสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. 2133 พระองค์ได้เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 เมื่อพระชนมายุได้ 35 พรรษา ทรงพระนามว่า สมเด็จพระนเรศวร หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 2 และโปรดเกล้า ฯ ให้พระเอกาทศรถ พระอนุชา ขึ้นเป็นพระมหาอุปราช แต่มีศักดิ์เสมอพระมหากษัตริย์อีกพระองค์

สวรรคต
สมเด็จพระนเรศวรกับสมเด็จพระเอกาทศรถ เสด็จยกกองทัพออกจากพระนคร เมื่อวันพฤหัสบดี แรม 8 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง พ.ศ. 2148 เสด็จโดยกระบวนเรือจากพระตำหนักป่าโมก แล้วเสด็จขึ้นบนที่ตำบล เอกราชไปตั้งทัพชัย ณ ตำบลพระหล่อ แล้วยกกองทัพบกไปทางเมืองกำแพงเพชรสู่เมืองเชียงใหม่ ครั้นเสด็จถึงเมืองเชียงใหม่ก็หยุดพักจัดกระบวนทัพอยู่หนึ่งเดือน แล้วให้กองทัพสมเด็จพระเอกาทศรถยกไปทางเมืองฝาง ส่วนกองทัพหลวงยกไปทางเมืองหาง ครั้นเสด็จถึงเมืองหางแล้วก็ให้ตั้งค่ายหลวงประทับอยู่ที่ทุ่งแก้ว สมเด็จพระนเรศวรทรงพระประชวรเป็นหัวระลอก (ฝี) ขึ้นที่พระพักตร์ แล้วกลายเป็นบาดทะพิษพระอาการหนัก จึงโปรดให้ข้าหลวงรีบไปเชิญเสด็จสมเด็จพระเอกาทศรถมาเฝ้า สมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จฯ มาถึงได้ 3 วัน สมเด็จพระนเรศวรก็เสด็จสวรรคต เมื่อวันจันทร์ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 สิริพระชนมพรรษา 50 พรรษา รวมสิริดำรงราชสมบัติ 15 ปี สมเด็จพระเอกาทศรถจึงได้อัญเชิญพระบรมศพสมเด็จพระนเรศวรกลับกรุงศรีอยุธยา

ชีวิตส่วนพระองค์
พระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชส่วนใหญ่ได้จากพงศาวดารอยุธยา ซึ่งมักมีการจดบันทึกในพระราชกรณียกิจ ซึ่งส่วนใหญ่บันทึกถึงการทำสงครามกับอาณาจักรเพื่อนบ้านเป็นอันมาก จนมองข้ามเกี่ยวกับเจ้านายฝ่ายในหรือพระมเหสีของพระองค์ แต่อย่างไรก็ตามได้มีการปรากฏพระนามของเจ้านายฝ่ายใน ในเอกสารของต่างชาติ 5 ฉบับด้วยกัน ซึ่งได้แก่ จดหมายเหตุสเปน (History of the Philippines and Other Kingdom) ของบาทหลวงมาร์เชโล เด ริบาเดเนย์รา (Marchelo de Ribadeneira, O.F.M), จดหมายเหตุวันวลิต, พงศาวดารละแวก, คำให้การขุนหลวงหาวัด และพงศาวดารพม่าฉบับหอแก้ว ซึ่งปรากฏพระนามพระนามพระมเหสี 3-4 พระองค์ โดยมีพระนามดังนี้

1.พระมณีรัตนา จากคำให้การขุนหลวงหาวัด
2.เจ้าขรัวมณีจันทร์ จากจดหมายเหตุวันวลิต
3.โยเดียมี้พระยา พระราชธิดาในพระเจ้านรธามังสอ กับพระนางเชงพยูเชงเมดอ ปฐมวงศ์พม่าที่ปกครองอาณาจักรล้านนา จากพงศาวดารพม่า
4.พระเอกกษัตรีย์ พระราชธิดาในพระเจ้าศรีสุพรรณมาธิราช เจ้าแผ่นดินเขมร จากพงศาวดารเขมร

มีการกล่าวถึง พระมณีรัตนา และเจ้าขรัวมณีจันทร์ ว่าอาจเป็นบุคคลเดียวกัน แต่บ้างก็ว่าอาจเป็นคนละคนกัน โดยเชื่อว่า พระมณีรัตนาอาจเป็นเจ้าหญิงที่สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ละโว้สายสุพรรณภูมิของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ และสมเด็จพระมหินทราธิราช ซึ่งในขณะนั้นเจ้านายฝ่ายในในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระองค์หนึ่งมีพระนามว่า พระรัตนมณีเนตร หรือ พระแก้วฟ้า ซึ่งเป็นพระขนิษฐาต่างชนนีของพระวิสุทธิกษัตรีย์ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นพระนางจะมีศักดิ์เป็นพระมาตุจฉาของพระนเรศวร

ที่มา: สมเด็จพระนเรศวรมหาราช Thai Wikipedia

Sunday, July 31, 2011

Tuesday, July 12, 2011

DANCOON Golf Club

Dancoon กอล์ฟคลับเป็นสนามกอล์ฟในจังหวัดขอนแก่นที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองความต้องการของคุณ สนามแห่งนี้สร้างและดำเนินการโดยบุคลากรมืออาชีพ จำนวน 18 หลุม นับเป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟที่ดึงดูดนักกอล์ฟจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

ผมไปเล่นมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันเสาร์ที่ 9 ก.ค. 54 บังเอิญเจอคุณภราดร ศรีชาพันธุ์ เลยขอถ่ายรูปครับ โดยรวมแล้วเป็นสนามกอล์ฟคลับที่ดีมากสนามหนึ่ง จะไปออกรอบอีกแน่นอนครับ




Tuesday, June 07, 2011

Springfield Royal Country Club

สนามกอล์ฟสปริงฟิลด์ (Springfield Royal Country Club)

หนึ่งในสนามกอล์ฟที่สวยงามและท้าทายของชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เมืองแห่งวัฒนธรรม เลิศล้ำศิลปะ แดนธรรมะ ทะเลงาม

สนามกอล์ฟขนาดมาตรฐาน 27 หลุม ที่รอให้คุณสัมผัสประสบการณ์ที่ประทับใจทุกหย่อมหญ้า พรมหญ้าสีเขียวที่ทอดยาว ท้าทายให้คุณมาสัมผัสกับความสนุกในการเล่นกอล์ฟ

อีกทั้งยังได้ผ่อนคลาย ออกรอบพร้อมชื่นชมธรรมชาติแห่งขุนเขาที่รายล้อม เสน่ห์ของธรรมชาติ และเสียงนกร้องกู่ก้องขุนเขา ซึ่งมีมากกว่า 100 ชนิด สนามกอล์ฟสปริงฟิลด์ แห่งนี้ถูกออกแบบโดย แจ๊ค นิคลอส(Jack Nicklaus ) เขาออกแบบไว้ได้อย่างสวยงาม กลมกลืนกับธรรมชาติ และท้าทายนักกอล์ฟทุกระดับฝีมือ โดยเฉพาะ Valley Course ซึ่งเป็น 9 หลุมที่เปิดขึ้นใหม่ มีความยากและท้าทายนักกอล์ฟฝีมือดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะถ้าเล่นที่หมุดน้ำเงินหรือหลุมหลัง




ข้อมูลทางเทคนิคของสนามกอล์ฟ

เปิดให้บริการ 1993

ผู้ออกแบบ Jack Nicklaus

จำนวนหลุม 27 หลุม

พาร์ 72

ความยาว 7,043 หลา

Monday, May 30, 2011

Rugged Notebooks


Rugged Notebooks คือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คตระกูลอึด มีจุดเด่นเรื่องหลักออกแบบด้านความทนทาน แข็งแรง กันน้ำ รอบรับการใช้งานหนักเพื่อลดแรงกระแทรกเมื่อตกหล่นและการสั่นสะเทือนเป็นอย่างดี ทำงานได้ทุกสภาพอากาศ บางรุ่นใช้งานได้ในอุณหภูมิตั้งแต่ -29 ถึง 60 องศาเซลเซียส บางรุ่นน้ำหนักเบา นิยมกันมากในต่างประเทศ เช่น นาวิกโยธินสหรัฐฯ , รถสายตรวจต่างๆ วิศวกรก่อสร้าง, แพทย์, นักธุรกิจ และอีกหลายสาขาอาชีพที่ต้องการโน๊ตบุ๊คสมบุกสมบัน ไม่ต้องคอยระวังเรื่องความเสียหายของตัวเครื่องและข้อมูล จอสามารถมองเห็นได้แม้ภายนอกที่มีแสงจ้า

Rugged Notebooks แบ่งได้เป็น 3 Model คือ

1. Fully - rugged ถูกออกแบบ,ทนทานต่อการใช้งานทุกรูปแบบโดยเฉพาะการใช้งานกลางแจ้ง ไม่เน้นดีไซน์ มีรูปร่างที่บึกบึนเหมาะสำหรับหิ้วไปใช้งานในทุรกันดาร มีหน้าจอให้เลือกหลายขนาดให้เหมาะแก่การใช้งาน มีการเชื่อhttp://www.blogger.com/img/blank.gifมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Lan ,wireless , bluetooth, modem,3G,GPS แบตใช้ได้นานถึง 9 ชั่วโมง มีหูหิ้วเหมือนกระเป๋า NoteBooks ใน model นี้ จะผ่านการทดสอบ MIL-STD-810F ซึ่งเป็นมาตราฐานทางทหารของประเทศสหรัฐ และกันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP54 (Dust protected, Splashing water)

2. Semi - rugged ถึงจะออกแบบมาในการใช้งานไม่สมบุกสมบันเท่า fully -rugged แต่ผ่านการทดสอบการตกจากที่สูง 76 เซนติเมตร รองรับแรงกดได้ถึง 100 kg keyboard มีระบบป้องกันน้ำมีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ตัวเครื่องน้ำหนักเบา มีระบบป้องกันน้ำหกใส่ keyboard มีระบบป้องกัน Harddisk จากแรงกระแทก (Lenovo - Active Protection System) สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่าย พกพาสะดวก เหมาะสำหรับ วิศวกร ประจำ Site งาน

3. Business - rugged เป็น model ที่ออกแบบมาใช้ในสำนักงาน แต่จะมาความทนทานมากว่า notebook ทั่วไป เนื่องจากผ่านการทดสอบการตกจากที่สูก 76 เซนติเมตร และรองรับแรงน้ำหนักได้ 100 kg ตัวเครื่องน้ำหนักเบา มีระบบป้องกันน้ำหกใส่ keyboard มีระบบป้องกัน Harddisk จากแรงกระแทก มีระบบป้องกันหน้าจอ LCD business rugged

โครงการรถไฟความเร็วสูง สายเอเชีย

โครงการรถไฟความเร็วสูง (High Speed Rail,HSR) สายเอเชีย เป็นโครงการของรัฐบาลไทย ที่จะร่วมทุนกับรัฐบาลจีน ซึ่งมีทั้งหมด 5 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย, กรุงเทพฯ-ระยอง,กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์, กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี และกรุงเทพฯ-เชียงใหม่

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ในราวปลายปี 54 ถึงต้นปี 55 น่าจะสามารถดำเนินการเปิดประมูลงานก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง สายเอเชีย เส้นทางแรกคือ กรุงเทพฯ-หนองคาย มูลค่า 1.5 แสนล้านบาท ระยะทาง 260 กิโลเมตร

โครงการรถไฟความเร็วสูง สายเอเชียดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่คณะของนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อราวเดือนมิ.ย.53 ขณะที่เมื่อปลายเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ที่ประชุมรัฐสภา เห็นชอบร่างกรอบการเจรจาความร่วมมือ ด้านการพัฒนากิจการรถไฟระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยจะร่วมมือกันพัฒนาการก่อสร้างทาง, การเดินรถไฟ และการบริหารจัดการกิจการ รถไฟความเร็วสูง ใน 5 เส้นทางหลัก

ขณะนี้ยังมีอีกหลายประเด็นหลัก ที่ยังต้องสรุปของฝ่ายไทยก่อนที่จะเปิดการเจรจากับจีน เช่น เรื่องสัดส่วนการถือหุ้นของโครงการดังกล่าว ซึ่งตามกฏหมายของไทย โครงการร่วมทุนที่เป็นรัฐวิสาหกิจ กำหนดว่าไทยต้องถือหุ้นไม่น้อยกว่า 51% นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของผู้บริหารโครงการ ซึ่งก็ต้องมีการกำหนดว่า จากฝ่ายไทยจะมีจำนวนเท่าใด จีนจำนวนเท่าใด เพื่อไม่ให้ขัดต่อกฏระเบียบของทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่องของผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการดังกล่าว อาจจะใช้แนวทางให้ผู้รับเหมาก่อสร้างไทยและจีน จับมือร่วมกันเป็นพันธมิตร และยื่นประมูลร่วมกันซึ่งเห็นว่าเป็นแนวทางที่ทั้งสองประเทศจะได้ประโยชน์

ปัญหาราคาข้าวและเงินงบประมาณที่มาจากภาษีอากร

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยระบุว่ารัฐบาลต้องสนับสนุนระบบเศรษฐกิจเสรี ซึ่งแปลว่าต้องปล่อยให้กลไกราคาทำงานโดยรัฐบาลไม่ควรเข้าไปแทรกแซงหรือยุ่งเกี่ยวกับการทำงานของตลาด แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง เราจะเห็นว่ามีตลาดสินค้าบางชนิดที่รัฐบาลจะเข้าไปควบคุมดูแลระดับราคาของมัน เพราะรัฐบาลคิดว่าถ้าปล่อยให้กลไกราคาทำงานอย่างเสรีแล้ว ผลที่เกิดขึ้นจะทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อน

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือการเข้าไปแทรกแซงระดับราคาสินค้าเกษตร ซึ่งหมายถึงการไม่ปล่อยให้ “ราคา” สินค้าเกษตรซื้อขายกันตามราคาตลาด และเมื่อไหร่ที่รัฐบาลมีนโยบายแทรกแซงการทำงานของตลาด คำถามที่ตามมาเสมอก็คือควรใช้วิธีอะไรในการแทรกแซงเพื่อให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรมากที่สุด หรือเกิดผลกระทบทางลบน้อยที่สุด ดังเช่นกรณีล่าสุด เรื่องของข้าว ที่เถียงกันว่าควรใช้วิธีใดระหว่างการรับจำนำกับการประกันราคา

อย่างไรก็ตาม หากจะกล่าวอย่างถึงที่สุดแล้ว การแทรกแซงราคาสินค้าของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นวิธีรับจำนำหรือประกันราคา ล้วนเป็นวิธีที่ทำโดยมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ จึงแทบไม่ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรยกตัวสูงขึ้น เนื่องจากรัฐบาลรับซื้อสินค้าเกษตรเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณผลผลิตทั้งหมด เช่น การเปิดรับจำนำข้าวทั้งหมดเพียง 6 ล้านตันจากผลผลิตข้าวนาปีทั้งหมดยี่สิบกว่าล้านตัน เป็นต้น จึงทำให้ผลประโยชน์จากการแทรกแซงตกอยู่กับคนกลุ่มเล็กๆ เพียงหยิบมือเดียว

คำถามคือ ถ้าเช่นนั้น รัฐบาลควรเลิกการแทรกแซงตลาดสินค้าเกษตรไปเลย จะดีหรือไม่?

คำตอบคือ ในระยะสั้น รัฐบาลคงยังต้องแทรกแซงหรือช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป เพราะถ้าปล่อยให้ตลาดทำงานเอง มันจะมีปัญหาอย่างที่กล่าวมาแล้ว (อ่านเพิ่มเติม) แต่สิ่งที่รัฐบาลควรพิจารณาอย่างจริงจังคือคิดหาวิธีที่ได้ผลจริงๆ วิธีที่ทำให้ผลประโยชน์ตกอยู่กับคนส่วนใหญ่ วิธีที่ไม่สร้างภาระด้านงบประมาณให้กับรัฐบาลมากจนเกินไป วิธีที่ไม่เปิดช่องให้เกิดการทุจริตได้อย่างง่ายๆ วิธีที่สามารถสร้างพฤติกรรมของเกษตรกรให้เน้นการพึ่งตัวเองมากกว่าการหวังพึ่งความช่วยเหลือจากรัฐบาลอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ใช้วิธีการที่มีเป้าหมายหลักอยู่เพียงแค่การเพิ่มฐานเสียงและความนิยมเท่านั้น

ส่วนในระยะยาว ทางออกที่ควรจะเป็นคือการส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า ตลอดจนช่วยพัฒนาการผลิตของเกษตรกรเพื่อให้ได้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น หรือไม่ก็ต้องหาวิธีลดต้นทุนการผลิตลงให้ได้

นอกจากนั้น การช่วยเหลือเกษตรกรยังต้องทำไปพร้อมๆ กับการพัฒนาด้านอื่นๆ เช่น การพัฒนาด้านการศึกษา การบริหารจัดการ แม้กระทั่งการพัฒนาทางด้านการเมือง เพื่อให้เกษตรกรรู้ว่าเงินที่นำมาใช้ในโครงการแทรกแซงตลาดนั้นล้วนเป็นเงินงบประมาณที่มาจากภาษีอากรทั้งสิ้น ไม่ใช่เงินจากกระเป๋าของนักการเมืองคนใดคนหนึ่ง

รายละเอียด อ่านเพิ่มเติม

ที่มา สุภาภรณ์ อัศวไชยชาญ, "รับจำนำกับการประกันราคา: ความเหมือนบนความแตกต่าง," Wednesday, 01 July 2009

Saturday, May 28, 2011

โนอาห์ เว็บสเตอร์ (Noah Webster)



โนอาห์ เว็บสเตอร์ (อังกฤษ: Noah Webster – 16 ต.ค. 2301-28 พ.ค. 2386) นักพจนานุกรม (lexicographer) เกิดที่เมืองฮาร์ตฟอร์ด ในรัฐคอนเนตทิคัต ได้รับการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเยล จบแล้วทำงานด้านกฎหมายแต่กลับชอบสอนหนังสือ เว็บสเตอร์เริ่มมีชื่อเสียงจากผลงานส่วนแรกที่ต่อมาเป็นที่รู้จักกันคือ “หนังสือหลักการสะกดคำของเว็บสเตอร์” ของ “สถาบันไวยากรณ์อังกฤษ” (พ.ศ. 2326) ก่อนปี พ.ศ. 2341 เว็บสเตอร์ยังคงยุ่งอยู่กับการเขียนบทความทางการเมือง การออกเอกสารแผ่นพับ การบรรยายตลอดจนการทำหนังสือพิมพ์จนเกษียณ



หลังเกษียณจึงได้หันมาเน้นด้านอักษรศาสตร์ที่ทำให้เว็บสเตอร์เป็นที่รู้จักในวงการพจนานุกรมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะ “พจนานุกรมภาษาอังกฤษของอเมริกา” (ชุด 2 เล่ม) โดยทำการจดทะเบียนลิขสิทธิ์เป็นครั้งแรกของสหรัฐฯ ในปีพ.ศ. 2371 ซึ่งกลายเป็นอิทธิพลหลักที่มีต่อการเขียนพจนานุกรมในสมัยต่อๆ มา นอกจากนี้ หนังสือชื่อ “หนังสือสกดคำปกน้ำเงิน” ได้ถูกนำมาใช้สอนในโรงเรียนของสหรัฐฯ เป็นเวลานานถึง 5 ชั่วคน เว็บสเตอร์จึงเกือบกลายเป็นคำเสมือนที่ใช้เรียกแทนพจนานุกรม และตัวเขาเองก็ได้รับการขนานามว่าเป็น “บิดาแห่งวิชาการและการศึกษา” ของอเมริกา ปัจจุบันพจนานุกรมของเขายังคงอยู่ในชื่อของ “พจนานุกรมเมอร์เรียม-เว็บสเตอร์”

โนอาห์ เว็บสเตอร์ มีชีวิตอยู่ตรงกับระหว่างรัชสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ปลายสมัยอยุธยาและรัชสมัยของพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 สมัยรัตนโกสินทร์

ที่มา: Thai Wikipedia